อาชญากรรม
วัยรุ่นขี่ จยย.เข้าโรงเรียน ขู่ฆ่า-ล็อกคอเด็ก 10 ขวบ ปล้นโทรศัพท์ก่อนเผ่นหนี
โดย chutikan_o
1 เม.ย. 2567
245 views
วัยรุ่นขู่ฆ่า ปล้นโทรศัพท์เด็ก 10 ขวบ คนซ้อนท้ายโร่แจง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่โดนยืมรถจักรยานยนต์และวานให้มาเป็นเพื่อน
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ภาพสองคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ เข้าไปในโรงเรียนบ้านคำบง ซึ่งมีเด็กนักเรียนนั่งเล่นรอซ้อมฟุตบอลอยู่ข้างสนามฟุตบอล ถูกคนร้ายทั้งสองคนล็อกคอขู่ฆ่า บังคับเอาโทรศัพท์มือถือ และให้บอกรหัสปลดล็อกโทรศัพท์ จากนั้นก็พากันขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “เตือนภัย มีวัยรุ่นจากต่างหมู่บ้านเข้ามาในหมู่บ้านคำบง หาจี้ปล้น ล็อกคอเด็กน้อยให้บอกรหัสไม่งั้นจะฆ่า แล้วเอาโทรศัพท์ไป หลานผมเพิ่งเจอเมื่อสักครู่ที่โรงเรียนบ้านคำบง มันเอาแต่โทรศัพท์ไป เด็กปลอดภัยแล้วครับ เห็นหน้าตารถชัดเจน กำลังไปแจ้งความ ฝากผู้ปกครองช่วยดูแลลูกหลาน เป็นหูเป็นตาช่วยกันครับ เป็นตาย้านแฮง ใครรู้จัก Inbox ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ” นั้น
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับผู้เสียหายคือ นางรัตน์ พิมพ์ทรายมูล อายุ 60 ปี และ ด.ช.อนุชิต หรือ น้องเอิร์ธ อายุ 10 ปี สองยายหลานพาผู้สื่อข่าวดูจุดเกิดเหตุในโรงเรียนและกล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเองและหลาน กลัวคนก่อเหตุจะเกิดความเคียดแค้นตามมาทำร้ายทีหลัง โดยจะขอปรึกษากันก่อน และโทรศัพท์ดังกล่าวเป็นของพ่อน้องเอิร์ธที่เสียชีวิตไปแล้ว เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เหลืออยู่ของพ่อน้องเอิร์ธที่เอาไว้ดูรูปภาพเวลาคิดถึงพ่อแม่
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. นางรัตน์พาน้องเอิร์ธเดินทางไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้าน เพื่อหารือเรื่องที่เกิดขึ้นกับหลานชาย โดยนางรัตน์ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับหลานชายนั้น ได้ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.น้ำพอง แล้ว ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดำเนินการต่อไป โดยส่วนตัวไม่เอาเรื่อง เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัยของหลานชาย เพราะทราบว่าคนร้ายเป็นวัยรุ่นบ้านเดียวกัน ซึ่งหลังก่อเหตุทราบว่า หลบหนีออกจากหมู่บ้านไปแล้ว และสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลานชายนั้น เท่าที่สอบถามจากหลานชาย ทราบว่า คนร้ายชื่อโหน่ง เป็นวัยรุ่นบ้านคำบง
ขณะที่ นายแมน นันโมง อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านคำบง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กชายวัย 10 ปี ซึ่งเป็นหลานชายของนางรัตน์นั้น เป็นเรื่องน่ากลัวและเป็นภัยต่อสังคมเป็นอย่างมาก จึงพายายกับหลานไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.น้ำพอง จากนั้นก็ให้ฝ่ายปกครองทราบเรื่อง และไปพบครูในโรงเรียนบ้านคำบง เพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณทางเข้าโรงเรียนบ้านคำบง ก็พบภาพคนร้ายที่ก่อเหตุชิงโทรศัพท์มือถือจากน้องเอิร์ธ ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในโรงเรียน ซึ่งน้องเอิร์ธก็ยืนยันว่าใช่คนร้ายที่ก่อเหตุชิงโทรศัพท์มือถือไปจริง จึงนำภาพนิ่งจากวงจรปิดส่งเข้ากลุ่มของฝ่ายปกครองและส่งให้ตำรวจ ต่อมาก็ทราบจากผู้ใหญ่บ้าน บ้านดงมัน ม.6 ต.สะอาด ว่า รถคันดังกล่าวจอดอยู่ในหมู่บ้าน จึงไปตรวจยึดมาไว้ที่บ้าน จากนั้นก็มีนางเอ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ชาวบ้านบ้านดงมัน เดินทางมาพบและแสดงตัวเป็นเจ้าของรถ แต่ไม่สามารถคืนให้ได้ เพราะเป็นยานพาหนะในคดีชิงทรัพย์ จึงให้ตำรวจมายึดเป็นของกลาง
และในเวลาต่อมา นางเอได้พาลูกสาวชื่อ ด.ญ.บี อายุ 14 ปี เดินทางมาพบผู้ใหญ่บ้านและพบนางรัตน์กับหลานชาย โดยทั้งสองคนยกมือไหว้ขอโทษยายกับหลาน นางเอ กล่าวว่า การขอโทษไม่ได้บอกว่าลูกสาวเป็นคนดี แต่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเพราะนายโหน่ง อายุ 17 ปี ซึ่งไม่อยู่บ้านตัวเอง แต่ไปพักอาศัยอยู่กับเพื่อนที่บ้านดงมัน จึงรู้จักกับลูกสาว บอกให้ลูกสาวพาขี่รถไปเอาเงินกับลุงที่บ้านคำบง ลูกสาวจึงพามา โดยนายโหน่งเป็นคนขับ ลูกสาวนั่งซ้อนท้าย ขับขี่ออกจากบ้าน มาที่บ้านคำบง แต่เมื่อถึงบ้านคำบง นายโหน่งไม่เข้าบ้านลุง แต่ขับขี่เข้ามาในโรงเรียน เมื่อถึงโรงเรียนนายโหน่งให้ลูกสาวรอที่รถ นายโหน่งเดินไปหาน้องเอิร์ธ ประมาณ 10 นาที นายโหน่งเดินกลับมาที่รถ สั่งให้ลูกสาวขับขี่รถออกจากโรงเรียน กลับมาที่บ้านเพื่อน จากนั้นลูกสาวจึงจอดรถไว้ที่หน้าบ้าน และถูกยึดเป็นของกลาง
นางเอ กล่าวอีกว่า การมาพบผู้ใหญ่บ้าน ก็เพื่อขอพบยายกับหลาน เพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันอาจจะไม่ช่วยอะไร แต่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นลูกสาวไม่รู้เรื่อง เป็นเรื่องของนายโหน่ง และกลัวความปลอดภัยของลูกสาว เพราะหลังจากมีภาพนิ่งเผยแพร่ในโซเชียล ก็มีการคอมเมนต์ที่ใช้คำรุนแรง กลัวลูกสาวจะไม่ปลอดภัย กลัวถูกคนทำร้าย และกลัวนายโหน่งจะมาทำร้ายลูก จึงมาปรึกษาผู้ใหญ่บ้านว่าจะดำเนินการอย่างไร ลูกสาวจึงจะปลอดภัย
ในขณะที่ ด.ญ.บี กล่าวว่า นายโหน่งเป็นเพื่อนกับญาติ และอาศัยกินนอนที่บ้านญาติจึงรู้จักกัน และนายโหน่งเคยยืมรถจักรยานยนต์แล้วหลายครั้ง ก่อนเกิดเหตุครั้งนี้ นายโหน่งยืมรถและวานให้นั่งรถมาเป็นเพื่อน บอกว่ามาเอาเงินกับลุง ได้เงินแล้วจะเติมน้ำมันรถให้ จึงนั่งซ้อนท้ายรถมาด้วย แต่นายโหน่งไม่ไปหาลุง กลับขี่รถมาที่โรงเรียน แล้วก่อเหตุชิงเอาโทรศัพท์มือถือจากน้องเอิร์ธ เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง แต่ไม่กล้าห้าม เพราะกลัวนายโหน่งทำร้าย เพราะนายโหน่งเป็นขาใหญ่ที่ทำร้ายคนมาแล้ว เมื่อนายโหน่งได้โทรศัพท์มือถือก็ให้ขับรถพากลับมายังบ้านเพื่อนที่บ้านดงมัน จึงเล่าเหตุการณ์ให้ญาติที่เป็นเพื่อนนายโหน่งฟัง เมื่อเพื่อนรู้เรื่องจึงไล่นายโหน่งออกจากบ้าน แล้วนายโหน่งก็หลบหนี
แท็กที่เกี่ยวข้อง ขี่จยย. ,ขู่ฆ่า ,ล็อกคอ ,เด็ก10ขวบ ,เข้าโรงเรียน ,ปล้นโทรศัพท์