สาวร้องสื่อ ให้ชายยืมเงิน นัดจะคืนให้ สุดท้ายหลอกไปให้ตร.จับ แถมจะยัดข้อหา

น.ส.สุพิชฌาย์ ทิพรัตน์ประภา 7/61 ม.1 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ตนเองได้ให้เงินกับคนรู้จักยืม แต่เมื่อทวงถามเงินกลับถูกตำรวจมาล้อมจับ เกือบตกเป็นผู้ต้องหาค้ายา โชคดีที่ใช้กลอุบายหลบลีกออกมาได้

โดยน.ส.สุพิชฌาย์ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา เคยไปเปิดร้านเสริมสวยอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานีและได้รู้จักกับนายเดชนะ วิรินทร์ เพื่อนของเจ้าของบ้านที่ไปเช่า และได้ไปมาหาสู่ เข้าเข้าออกออก อ้างว่ามีปัญหาทะเลาะกับแฟนไม่มีที่ไปซึ่งตนก็ได้ช่วยเหลือในเรื่องของความเดือดร้อนต่างๆจนในที่สุดก็ขอยืมเงิน เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งเงินที่ให้เค้ายืมไปทั้งหมดรวมแล้วประมาณ 5000 บาท และมีหลักฐานในการโอนทั้งหมด ซึ่งหลังจากนั้นต่อมาก็พยายามทวงถามเรื่องเงินที่ยืมไป แต่ก็ยังไม่ได้รับเงินคืนแต่อย่างใดซึ่งจากการสอบถามจากคนที่รู้จักก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน

ต่อมาตนกลับไปเยี่ยมแม่ที่จังหวัดชุมพรและได้ทวงถามเงินในส่วนที่ยืมไป ได้รับแจ้งว่าไม่สะเวกโอนให้ได้ ให้กลับมารับด้วยตัวเอง และได้พยายามติดต่อตนอยู่ตลอดเวลาว่าเดินทางถึงที่ใดแล้ว และถ้าหากตนเดินทางมาถึงหน้ากองบิน 7ให้แจ้งด้วย ซึ่งเมื่อตอนแจ้งกลับไปว่าเดินทางมาถึงหน้ากองบิน 7 แล้วได้รับคำตอบว่าไม่สะดวกเอาเงินมาให้ด้วยตัวเอง แต่จะฝากกับเพื่อนมาให้ที่บ้าน ซึ่งตน ที่เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีซึ่งเป็นบ้านของตนเองเลขที่ ได้ถามกลับไปว่าทำไมต้องฝากกับเพื่อน เพราะไม่อยากให้ใครมาที่บ้าน ต่อมาเพื่อนคนที่รับฝากเงินได้เอาเงินใส่ถุงพลาสติกแล้วไปตั้งไว้บริเวณริมถนนในซอยก่อนถึงบ้านของตน เพราะมีการส่งภาพมาให้ดู เมื่อ เดินทางมาถึงบ้านจึงได้ออกไปเดินหาแต่ก็ไม่เจอ กับเจอแต่ชายฉกรรจ์หลายคนลงมาจากรถยนต์จำนวน 2 คันแล้วอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอทำการตรวจค้นและจะพาไปตรวจฉี่ เพราะไม่เจอของกลาง ตนก็พยามพูดบ่ายเบี่ยง ว่าไม่ได้กระทำผิดอะไรทำไมต้องขึ้นรถไปด้วยแล้วจะมาจับเรื่องอะไร

จนในที่สุดต้องอ้างว่าอุจจาระใส่กางเกงต้องขออนุญาตเข้าบ้านก่อน เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะขึ้นรถไปด้วย กลุ่มชายฉกรรจ์ ดังกล่าวจึงให้ชายอีกคนนึงที่ตนเข้าใจว่าเป็นอาสาตำรวจ หรือสายตำรวจซึ่งเป็นคนที่เคยรู้จักกันทาง Facebook เดินพาตนมาส่งที่หน้าบ้านหลังจากนั้นจึงได้วิ่งเข้าบ้านและล็อกประตูไม่ให้ใครเข้ามาในบ้านเนื่องจากคนเหล่านั้นไม่มีหมายค้น ซึ่งชายคนดังกล่าวจึงได้บอกกับตนว่าทำให้งานของเค้าเสียหมดเลย ซึ่งตนก็โต้กลับไปว่า งานไม่ได้เสียหรอกแต่จะมายัดข้อหาให้กับตน

จากนั้นชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวจึงได้เดินทางกลับไป ต่อมาตนจึงให้พี่ชายติดต่อไปยังกลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นซึ่งได้รับคำตอบมาว่าขอให้จบเพียงเท่านี้ และเมื่อติดต่อไปหา นายเดชนะ ได้รับคำถามมาว่าโดนใช่ป่ะ หนูก็แจ้งกลับไปว่าไม่โดนรู้สึกผิดหวังไหม ซึ่งเข้าใจว่าลักษณะอย่างนี้เป็นการหาลูกค้าให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงอยากขอความเป็นธรรม