วินนั่งก๊งเหล้า เพื่อนยกขวดซด เตือนไม่มีมารยาท ฉุนเอามีดแทง 10 แผลสาหัส

วันนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 00.30 น. คืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ซูซั่น สว.(สบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุแทงกันด้วยอาวุธมีด มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดริมถนนวิเศษกุล บริเวณหอนาฬิกาใจกลางเมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง ก่อนรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยกำลังชุดสืบสวน กู้ชีพ รพ.ทีอาร์พีเอส และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง

ถึงที่เกิดเหตุพบนายสุชาติ เกตุทอง หรืออ้น อายุ 55 ปี ชาว ต.ทับเที่ยง อาชีพขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง นั่งรอความช่วยเหลืออยู่บนเก้าอี้ไม้กินอ่อนบริเวณริมถนนบันไดทางขึ้นเทศบาลนครตรัง ในอาการบาดเจ็บสาหัส ถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลม หรือมีดทำครัวเข้าที่หน้าอก แผ่นหลัง และชายโครงด้านขวา กว่า 10 แผล เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนรีบนำส่ง รพ.ศูนย์ตรัง โดยทางทีมแพทย์ได้นำตัวเข้าห้องผ่าตัดเร่งด่วนทันที ในที่เกิดเหตุพบคราบเลือดตกอยู่เป็นจำนวนมาก และเสื้อวินรับจ้าง รวมทั้งรถของคนบาดเจ็บตกและจอดอยู่ ถัดออกไปจากเก้าอี้ไม้หินอ่อนจุดเกิดเหตุประมาณ 5 เมตร พบโทรศัพท์มือถือของผู้ก่อเหตุตกอยู่ 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบเพียงชื่อเล่นว่านายตูน (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ซึ่งเป็นวิน รับจ้างที่รู้จักกัน หลังก่อเหตุหลบหนีไป

สอบถาม นายสิทธิโชค แซ่เฮง อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นวินรับจ้างด้วยกัน พยานในเหตุการณ์ เล่าว่า คนบาดเจ็บเป็นวินรับจ้างอยู่คิวหน้าร้านมิตรสาส์น ส่วนตนขับวินอยู่คิวหน้า รร.สภาราชินิ และตนได้มานั่งกินเหล้ากับคนเจ็บที่จุดดังกล่าว ก่อนที่จะมีนายตูน (ผู้ก่อเหตุ) ซึ่งขับรถรับจ้างอยู่คิวที่หลังตลาดสด มานั่งกินด้วย โดยนั่งกินกันหมดไป 2 ขวด ปรากฏว่าจังหวะนั้น คนก่อเหตุได้ยกเหล้าไปซด ทำให้คนบาดเจ็บไม่พอใจ ว่ากล่าวตักเตือน ว่าการยกซดแบบนั้นไม่ดี ไม่มีมารยาท ทำไมถึงไม่รินใส่ในแก้ว ผู้ก่อเหตุจึงโกธรที่ผู้บาดเจ็บด่าว่ากล่าวตักเตือน จึงเกิดปากเสียงกัน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะขับรถออกไป เพียงไม่นานได้ขับกลับมาพร้อมมีดทำครัว และกระหน่ำแทงคนบาดเจ็บกว่า 10 ครั้ง และขับรถหลบหนีไปทันที เบื้องต้นทราบว่าก่อนหน้านี้คนบาดเจ็บและคนก่อเหตุรู้จักกันและไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งได้กันมาก่อน

เบื้องต้นคนเจ็บยังอยู่ในอาการบาดเจ็บสาหัส อยู่ระหว่างการช่วยเหลือของทีมแพทย์ ส่วนผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีบ้านอยู่ในเขตเทศบาลนครตรัง อยู่ระหว่างการหลบหนี โดยชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง อยู่ระหว่างติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป