หนุ่มใหญ่ติดเหล้า 20 ปี หักดิบเลิกเหล้าจนหลอน พบเป็นศพห้อยหัวกับรั้วลวดหนาม

วันนี้ (8 ก.คง) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ท.วิชาญ บุญลือ พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพชายเสียชีวิตห้อยติดกับรั้วลวดหนามด้านหลังหมู่บ้านเอื้ออาทรสาขลา หมู่ที่ 13 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงรายงาน พ.ต.อ.ธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุบริเวณรั้วลวดหนามด้านหลังของหมู่บ้านที่ติดกับป่าจากและคลองระบายน้ำพบรั้วอยู่ในสภาพเอนเอียงเกือบพังลงไปริมคลอง พบร่าง นายสุเทพ พุทธรักษา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 13 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เสียชีวิตในลักษณะห้อยอยู่กับรั้วลวดหนามศีรษะและมือทั้ง 2 ข้างทิ่มดิน ขาทั้ง 2 ข้างถูกลวดหนามพันจนมีบาดแผลหลายแห่งจนเลือดแห้งเกรอะกรัง สภาพศพสวมกางเกงขายาวสีดำ ไม่สวมเสื้อ ไม่สวมรองเท้า บริเวณรั้วพบเสื้อยืดคอกลมแขนยาวลายทางดำสลับขาวแขวอยู่ ทางเจาหน้าที่ตำรวจจึงประสานขออุปกรณ์ตัดลวดหนามจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อนำร่างออกมาตรวจสอบ แต่เนื่องด้วยบริเวณดังกล่าวเป็นป่าและมีฝูงมดแดงจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องระดมยามาฉีดฆ่ามด ก่อนที่จะช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้อย่างทุลักทุเลเพื่อให้แพทย์เวรพิสูจน์เบื้องต้น

จากการสอบถาม น.ส.บุศลินทร์ มะลิแย้ม กำนัน ต.แหลมฟ้าผ่า ทราบว่าผู้ตายมีอาชีพช่วยครอบครัวทำปลาสดและขายปลาสดอยู่หน้าบ้านใกล้ที่ทำการกำนัน โดยปกติผู้ตายเป็นคนติดสุรามานานกว่า 20 ปี กระทั่งเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ผู้ตายได้หักดิบเลิกเหล้ามาได้ประมาณ 7 วันแล้ว ก่อนที่จะมาพบเป็นศพเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันที่ 7 ก.ค.65 ผู้ตายได้เดินมาเคาะประตูบ้านกำนันพร้อมแจ้งว่าบ้านของตนมีคนบุกขึ้นไปในบ้านก่อนที่จะวางยาสลบน้องสาวและหยิบเงินจำนวน 10,000 บาทที่ขายปลาได้หลบหนีไป ตนจึงบอกว่าให้ไปเรียกน้องสาวซึ่งเป็นผู้เสียหายมาแจ้งกับกำนันแต่ผู้ตายบอกว่าน้องสลบอยู่ให้ไปดูเอาเอง ก่อนที่ผู้ตายจะเดินออกไปจากบ้านกำนันและเลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านเอื้ออาทรที่อยู่เยื้องกัน

กระทั่งเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันเดียวกันได้มี นางนิภา มะลิแย้ม อายุ 54 ปี ซี่งเป็นน้องสาวผู้ตายพร้อมญาติพี่น้องรวม 5 คน มาแจ้งว่าผู้ตายได้หายตัวไปและออกตามหากันแล้วแต่ว่าไม่พบซึ่งตนได้แจ้งว่าให้ครบ 24 ชั่วโมงก่อนแล้วค่อยไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้กลุ่มของ นางนิภา มาแจ้งตนว่าพบผู้ตายเสียชีวิตในสภาพห้อยกับรั้วลวดหนามของหมู่บ้าน จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ก็ภัยให้มาตรวจสอบดังกล่าว

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานเบื้องตนคาดว่าผู้ตายหักดิบเลิกสุราจนเกิดอาการจิตหลอน คาดว่าน่าจะปืนรั้วลวดหนามเพื่อลงไปในคลองแต่ด้วยรั้วที่มีสภาพเก่าและทนรับน้ำหนักผู้ตายไม่ไหวรั้วจึงได้เอนเอียงคล้ายจะล้ม ทำให้ผู้ตายเสียหลักเท้าทั้ง 2 ข้างเข้าไปพันกับลวดหนามจนตัวห้อยศีรษะทิ่มลงดินและผู้ตายพยายามดิ้นรนตะเกียกตะกายเพื่อให้หลุดออกจากบริเวณดังกล่าวจนหมดแรงและชีวิตในเวลาต่อมา ก่อนที่จะบันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้นพร้อมมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้งพร้อมประสานญาติให้ติดต่อขอรับศพไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป