อาชญากรรม
เตรียมย้าย 'โกทร-พวก' มาเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เผยรอผลตรวจเขม่าดินปืน จะทราบมือปืนมีกี่คน
โดย panwilai_c
21 ธ.ค. 2567
23 views
ตำรวจกองปราบปรามเตรียมย้ายผู้ต้องหา 7 คนคดียิง สจ.โต้ง มาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และขอให้รอผลตรวจเขม่าดินปืน จะทราบว่ามือปืนมีกี่คน ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานว่ามีผู้ต้องหาเพิ่ม
การสังหารนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ ส.จ.โต้งภายในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์หรือโกรทร เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมาและตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาในที่เกิดเหตุได้ทั้งหมด 7 คน แต่มีรายงานข่าวว่าน่าจะมีผู้ร่วมกระทำผิดมากกว่า7 คน
จากการตรวจสอบพยานหลักฐานของตำรวจชุดคลี่คลายคดีของกองปราบปรามและภาค 2 พบว่า สจ.โต้งกับจะโทรกับนายสุนทร โดยผ่านนายกฤษฏา หรือ รองอุ๊ โดยวันเกิดเก่อนเกิดเหตุ สจ.โต้งก็ได้โทรคุยกับรองอุ๊ จนเกิดเป็นคลิปเสียง ว่ามีการคุยกัน3 สายทั้ง นายสุนทร รองอุ๊ และ สจ.โต้ง และเมื่อสจ.โต้ง ไม่มั่นใจว่านายสุนทรจะได้รับการสนับสนุนให้ภรรยา ของสจ.โต้งสมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ. จึงเกิดความโมโหและเลี้ยวรถกลับเข้ามาที่บ้าน นายสุนทรอีกครั้ง เพื่อจะคุยกันให้รู้เรื่อง โดยไม่มีมือที่ 3 โทรศัพท์ลวงให้มาแต่อย่างใด
แต่เจ้าหน้าที่ยังให้น้ำหนัก การวางแผนตระเตรียมคนและอาวุธรอไว้ภายในบ้านก่อนแล้ว เนื่องจากผู้ร่วมกระทำผิดไม่ได้ถอดรองเท้า ส่วนรองอุ๊ขณะเกิดเหตุอยู่หน้าบ้านของนายสุนทร ซึ่งตำรวจชุดคลี่คลายคดี ขอให้รอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ จากเขม่าปืน โดยผลการตรวจ น่าจะได้คำตอบในสัปดาห์หน้านี้ ก็จะทราบว่ามือปืนมีกี่คน ส่วนกระแสข่าวว่า เหตุใดถึงสังหาร สจ.โต้งในบ้านนายสุนทร ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่า การยิง สจ.โต้งภายนอกบ้าน เป็นไปได้ยากเพราะ สจ.โต้งมีคนคุ้มกันจำนวนมากทั้งพลเรือนและตำรวจที่ คอยคุ้มกันสจ.โต้ง
ขณะที่ พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับโอนคดียิง สจ.โต้ง มาจากตำรวจภูธรภาค 2 แล้ว ทางพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม จะไปทำเรื่องขอให้ศาลจังหวัดปราจีนบุรีอนุญาตย้ายตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน จากเรือนจำจังหวัดนครนายกไปควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เหมือนคดีอื่น ๆ ที่กองบังคับการปราบปรามรับโอนคดีมา เนื่องจากกองบังคับการปราบปรามอยู่ในอำนาจของศาลอาญา หลังจากโอนคดีมาก็จะต้องนำผู้ต้องหาไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครตามขั้นตอน ส่วนจะไปยื่นเรื่องขออนุญาตจากศาลจังหวัดปราจีนบุรีเมื่อใดนั้น ยังไม่มีกำหนดที่แน่ชัด เพราะยังต้องดำเนินการในเรื่องอื่นของคดีก่อน เมื่อพร้อมพนักงานสอบสวนก็จะไปยื่นเรื่องต่อศาลทันที
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยคดีการเสียชีวิตนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้งภายในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์หรือโกรทร สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง7 ราย รวมทั้งนายโกทร ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจขอศาลจังหวัดปราจีนบุรี ที่พนักสอบสวนกองปราบปรามจะต้องขอให้ศาลพิจารณาอนุญาตในการย้ายเรือนจำมาอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ในคดีนี้อยู่ในขอบเขตอำนาจของกองปราบปราม ซึ่งมีอำนาจการสอบสวน ทั่วประเทศจึงไม่จำเป็นต้องย้ายเรือนจำก็ได้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพนักงานสอบสวนกองปราบปรามว่าจะขอหรือไม่ ซึ่งการย้ายผู้ต้องหาจะต้องย้ายทั้งหมด 7 คนเนื่องจากเป็นสำนวนเดียวกัน ส่วนการย้ายผู้ต้องหา ยืนยันว่ากำลังพลของกรมราชทัณฑ์มีเพียงพอในการดูแลอยู่แล้ว แต่อาจจะขอกำลังเสริมจากตำรวจช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มเพื่อความรอบคอบในการเคลื่อนย้าย
ทั้งนี้ หากได้รับการอนุมัติจากศาลคาดว่าจะย้ายตัวผู้ต้องหาไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เนื่องจากเป็นผู้ต้องในระหว่างการต่อสู้คดี ส่วนกรณีจะแยกแดนคุมขังนายโกทร กับลูกน้องหรืออยู่รวมกัน ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ผบ.เรือนจำ แต่ แต่การคุมขังจะไม่อยู่กับอริหรือคู่ขัดแย้ง
ส่วนเงื่อนไขในการเข้าเยี่ยมเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของราชทัณฑ์ที่ ปฏิบัติกับผู้ต้องขังทุกรายตามปกติโดยไม่มีอภิสิทธิ์ เพราะตัวผู้ต้องหาจะไปต่อสู้คดีจะต้องให้โอกาสพบกับทนายอยู่แล้ว ส่วนผู้เข้าเยี่ยม ต้องมีรายชื่อชัดเจนใน 10 รายชื่อที่ผู้ต้องหาแจ้งไว้ว่าให้เยี่ยม แต่หากเป็นบุคคลที่นอกเหนือรายชื่อก็แล้วแต่ผู้ต้องหาพิจารณา ส่วนนายโกทร จะมีเงื่อนไขเรื่องอายุเยอะและมีอาการป่วยหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพยาบาลในการพิจารณาก่อน ก่อนเสนอให้ ผบ. เรือนจำ เป็นผู้อนุมัติในการส่งตัวผู้ต้องขัง ไปรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายของกรมราชทัณฑ์ เหมือนกันทุกคดีเช่นเดียวกับกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
แต่หากส่งไปแล้วตรวจสอบแล้วว่าไม่ป่วยจริงก็ต้องส่งตัวกลับ
ส่วนกรณีที่นายโกทร อายุ 85 ปีและมีอาการป่วยจะใช้เป็นข้อกล่าวอ้างในการขอพิจารณาพักโทษหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าไม่ได้เพราะไม่เข้าเกณฑ์ เพราะต้องเป็นเป็นคดีที่ศาลตัดสินเด็ดขาดแล้วจึงจะเข้าเกณฑ์พักโทษได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง สจโต้ง ,ยิงสจโต้ง ,โกทร ,ย้ายตัวโกทร ,เรือนจำพิเศษกรุงเทพ