ตร.เร่งแกะรอยล่าคนร้ายฆ่าหมกคอนโด ญาติเชื่อปมประสงค์ทรัพย์ ลั่นไม่เผาศพจนกว่าจะจับได้

คดีฆาตกรรมชายวัย 54 ปี ในห้องพักคอนโดมิเนียม ย่านงามวงศ์วาน จนถึงตอนนี้ตำรวจยังตามเเกะรอย ไล่ล่าต่อเนื่อง ล่าสุด ได้เรียกคนขับรถเเท็กซี่สีเขียว-เหลือง ที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดมาให้ข้อมูลเเล้ว ส่วนครอบครัวผู้เสียชีวิต บอกว่าจะไม่อโหสิกรรม เเละจะไม่เผาศพจนกว่าจะจับคนร้ายได้



ความคืบหน้า กรณีชายวัย 54 ปี พาชายปริศนามาที่คอนโดมิเนียม ในช่วง 4 ทุ่มกว่า ๆ ของวันที่ 20 พฤษภาคม ก่อนจะถูกพบในสภาพถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม เเละทิ้งศพไว้ในห้องพักของตัวเองนานถึง 5 วัน ขณะที่ชายต้องสงสัยได้นำทรัพย์สินมีค่าออกไปขาย และยังใช้เงินในบัญชีของผู้ตายซื้อทองคำมูลค่า 8 แสนบาท



ล่าสุด ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ตามแกะรอยจนพบว่า ราว 3 ทุ่ม 42 นาที ผู้ต้องสงสัยซึ่งสวมฮูดสีดำ เดินไปซื้อมีดที่ห้างฯ แห่งหนึ่งย่านรัชโยธิน โดยจะเห็นว่าผู้ต้องสงสัยได้สวมฮูดปิดคลุมหัวเหมือนจงใจปกปิดใบหน้าและอำพรางตัว และจากนั้น ผู้ต้องสงสัยก็ได้นัดเจอกับผู้ตายแล้วไปที่คอนโด ย่านงามวงศ์วาน จังหวัดนนทบุรี



พี่ชายของผู้เสียชีวิต เปิดใจกับทีมข่าวอาชญากรรมช่อง 3 ว่า แม่ของเขาเคยเห็นผู้ต้องสงสัย มากับน้องชายที่บ้าน แต่ก็นานมาแล้ว มาแค่ 1 ครั้งแต่ไม่เคยคุยกัน ไม่รู้แม้กระทั่งว่าชื่ออะไร ไม่รู้ว่าไปรู้จักกันตอนไหน แต่เชื่อว่าเป็นคนไทยแน่นอน เพราะพูดไทยชัด ตอนนี้แม่สภาพจิตใจค่อนข้างย่ำแย่เพราะอยู่กับน้องชายมาตลอด ประกอบกับกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะผู้ต้องสงสัยได้ข้อมูลของน้องชายไปเยอะมาก



ส่วนมูลเหตุจูงใจเชื่อว่าต้องเป็นเรื่องประสงค์ต่อทรัพย์ และคงวางแผนมานานแล้ว จึงเข้ามาตีสนิทจนน้องชายไว้ใจ จึงขอฝากไปถึงผู้ก่อเหตุที่ตอนนี้ยังหลบหนีอยู่ "ถ้าอยู่ได้ก็อยู่ไป คนเราคงไม่ดวงดีไปตลอด ทุกคนในครอบครัวไม่มีใครอโหสิกรรมให้ ถ้าครอบครัวตัวเองโดนแบบนี้บ้างจะรู้สึกอย่างไร และขอให้กอดทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของตัวเองไว้ให้ดี เชื่อว่าอีกไม่นานจะต้องได้รับกรรม" เเละจะยังไม่เผาศพน้องชายจนกว่าจะจับคนร้ายได้



ส่วนห้องพักของน้องชาย ได้จ้างเจ้าหน้าที่อาสาของมูลนิธิฯ ไปทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (28พ.ค.) และได้ยกทรัพย์สินของน้องชายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทีวี ตู้เย็น ให้กับเจ้าหน้าที่นำไปใช้ หรือไปบริจาค เพื่อเป็นการทำบุญให้กับน้องชาย และวันเสาร์นี้ทางคอนโดจะนิมนต์พระมาทำบุญด้วย



มีรายงานว่าในวันที่ผู้ต้องสงสัยเอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปขายที่มาบุญครอง มีพนักงานขายโทรศัพท์ร้านใกล้เคียง เห็นชายใส่เสื้อสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นเสื้อสีเดียวกับที่ผู้ตายใส่ในวันที่ถูกฆาตกรรม เดินตามผู้ต้องสงสัยในขณะที่เอาโทรศัพท์มือถือของไปขาย



เเละเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ชายอายุ 68 ปี คนขับรถแท็กซี่โดยสารเขียวเหลือง เข้าให้ปากคำกับ พันตำรวจตรี ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ซึ่งเคยรับผู้ต้องสงสัยเป็นชายสวมฮูดดำ หลังซื้อมีดจากห้างย่านรัชโยธิน เเละพามาส่งที่เป็นจุดนัดพบชายวัย 54 ปี



คนขับเเท็กซี่ เปิดเผยว่า เมื่อ 20 พฤษภาคม ช่วงเวลาประมาณ 3 - 4 ทุ่ม ผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้โบกเรียกรถที่หน้าห้างย่านรัชโยธิน ให้ไปส่งที่ฝั่งตรงข้ามห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน โดยในระหว่างที่นั่งรถโดยสารมา ผู้ต้องสงสัยไม่ได้มีท่าทีพิรุธอะไร นั่งสวมฮูดคลุมศีรษะไว้ตลอด แต่ไม่ได้สวมแว่นตา และไม่เห็นว่ามีกระเป๋าสะพายติดตัวมา นอกจากในมือจะมีโทรศัพท์อยู่ 2 เครื่อง ซึ่งก็มีข้อความดังตลอด แต่ก็ไม่เห็นยกโทรศัพท์ขึ้นมาคุยอะไรกับใคร



กระทั่งถึงที่หมาย ได้ลงรถบริวณใต้สะพานลอย ฝั่งตรงข้ามพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน ค่าโดยสาร 90 บาท ชายคนนี้จึงยื่นแบงก์ร้อยมาให้ ก็ทอนเงินกลับ 10 บาท ซึ่งตลอดเส้นทางไม่ได้คุยอะไรกัน หลังลงจากรถก็ขึ้นสะพานลอยไป ผู้สื่อข่าวจึงเปิดภาพผู้ต้องสงสัยให้ดู ก็ยืนยันว่าเป็นคนคนเดียวกัน



ล่าสุด มีรายงานว่าชายต้องสงสัย หนีไปกบดานอยู่ที่จังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออก ตำรวจอยู่ระหว่างตามไล่ล่า