อาชญากรรม
'บิ๊กโจ๊ก' แถลงสรุป หลังกู้วงจรปิด ยัน 'กำนันนก' ไม่รอด แม้ขาดช็อตสั่งลั่นไก
โดย panwilai_c
15 ก.ย. 2566
88 views
หลังจากเฝ้ารอกันมาทั้งวัน ที่สุดเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็เดินทางมาที่ภูธรภาค 7 เพื่อเเถลงความคืบหน้าการกู้ Server วงจรปิด โดยเฉพาะกล้องที่ติดตั้งไว้ใน 2 จุดสำคัญ ภาพเเละเสียงสนทนาตรงจุดนั้น จะเป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า เหตุการณ์ในคืนวันที่ 6 กันยายน เกิดอะไรขึ้นกับสารวัตรศิวกร ใครเป็นคนยิง ใครสั่งการ ใครบ้างที่เกี่ยวข้อง ใครบ้างที่ทิ้งผู้บังคับบัญชา คอยช่วยเเละปล่อยตัวผู้ต้องหาหลบหนีไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จุดเกิดเหตุมีกล้อง 2 ตัว ติดตั้งในบริเวณโต๊ะที่เกิดเหตุ ยืนยันว่าตอนนี้กู้ได้แล้ว แต่ภาพขณะที่มือปืนลั่นไกกลับหายไป คาดว่าก่อนยิง อาจจะมีลูกน้องกำนัน หรือมีใครบางคน ไปดึงปลั๊กออกหรือทำให้กล้องหยุดบันทึกไว้ชั่วขณะ
พฤติการณ์เช่นนี้ เชื่อว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า รวมทั้งมีการเตรียมอาวุธปืน ทันทีที่สารวัตรศิวกร ซึ่งตามเข้ามาในภายหลัง คนกลุ่มนี้น่าจะถอดกล้องวงจรปิดออก ไปฟังเสียงรองผบ.ตร. เเถลงอธิบายในประเด็นนี้
ในการเเถลง ระบุเพิ่มเติมว่า ก่อนเกิดเหตุ ลูกน้องกำนันนกได้ขนอาวุธปืนเข้ามาไว้ เป็นสิ่งบ่งชี้ได้ว่าตั้งใจที่จะยิง และหลังเกิดเหตุ มีการเตรียมทางหนีเเละทางออก เริ่มจากการลำเลียงผู้สูงอายุ เเละผู้ใหญ่ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากที่เกิดเหตุ
ที่น่าสนใจก็คือ หลังเกิดเหตุ ตำรวจในงานส่วนใหญ่ ให้การขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ตรงกับที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า แม้จะไม่เห็นภาพขณะยิง เเต่ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ โดยมั่นใจว่า พยานหลักฐานทุกอย่างมัดไว้อยู่แล้ว
นั่นเป็นการเเถลงบางช่วง ซึ่งเป็นข้อมูลที่รายงานมาจากจากฝั่งของตำรวจชุดคลี่คลายคดี ที่ผ่านมาหลายคนที่ติดตามข่าวนี้ ส่วนหนึ่งก็ยังเเคลงใจอยู่เหมือนกัน ว่าภาพเหตุการณ์ในช่วงสำคัญทำไมถึงหายไป เพื่อความเป็นกลางเเละตอบคำถามสังคมได้ว่า "ภาพที่หายไปไม่ได้ถูกตัดตอนออกไปในขั้นตอนการกู้ Server เเละเป็นการทำให้ภาพหายไปจากคนในบ้านของกำนันนก" บางส่วนจึงเสนอว่าอยากให้ ผู้เชี่ยวขาญหรือมีหน่วยงานกลางที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ร่วมเป็นสักขีพยานในการตรวจสอบ เพราะนี่ถือเป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญที่มีผลต่อรูปคดี