การจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งตั้งฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ต้องประสานความร่วมมือกับทางการฝั่งกัมพูชา ทำให้ยังหลอกเหยื่อได้ทุกวัน ล่าสุดหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องพยายามหาทางแก้ปัญหา ทั้งการตัดสัญญาณโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งธนาคาร ก็เร่งตรวจสอบการเปิดบัญชีม้า 

หนึ่งในเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ ยอมรับทุกวันนี้ยังโทรมาหลอกเหยื่อคนไทยด้วยกัน โดยทำงานให้นายทุนต่างชาติ ติดตั้งอุปกรณ์การโทรอยู่ในกัมพูชา และทุกวันนี้ได้เหยื่อแทบทุกวัน โดยแม่ค้าที่จังหวัดสงขลารายนี้ก็หลงเชื้อ เพราะแก็งมิจฉาชีพแต่งกายเป็นตำรวจ เปิดกล้องคุย จึงโอนเงินไปกว่า 1 ล้าน 7 แสนบาท


จากข้อมูลโทรศัพท์ของแก๊งคอลเซนเตอร์ เจ้าหน้าที่พบว่าเครือข่ายนี้ใช้โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ VOIP จากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเบอร์ที่โทรจะตั้งเป็นเบอร์ของหน่ายงานภาครัฐ เพื่อให้ประชาชนเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโทรมา

ขณะนี้ กสทช.ได้ขอร่วมมือกับเครือข่ายโทรศัพท์ ให้ตรวจสอบหากเบอร์ที่โทรมา เป็นรูปแบบแก๊งคอลเซนเตอร์ ให้ตัดสายเพื่อไม่ให้ส่งต่อไปยังปลายทางในไทย และผู้ให้บริการต้องแสดงเบอร์โครงข่ายของตัวเอง หากเป็นเบอร์แอบอ้างให้ตัดสายทันที


ขณะที่แก๊งคอลเซนเตอร์จะใช้บัญชีรับจ้างหรือบัญชีม้าในการรับโอนเงินจากเหยื่อ และเส้นทางการเงินก็จะโอนออกไปยังม้าแถวที่ 2-3หรือ 4ทันที จึงมีการเรียกร้องให้สกัดกั้นการเปิดบัญชีม้าต้นทางของแก๊งมิจฉาชีพ

รองเลขาธิการสมาคมธนาคารไทย ระบุว่า จากอดีตจะมีนายหน้าพามาเปิดบัญชีหลายคน ขณะนี้ต่างคนต่างแยกกันมา ทำให้ธนาคารสังเกตได้ยาก จะไปจำกัดสิทธิก็ไม่ได้หากศาลยังไม่ได้ลงโทษ แต่หากเปิดหลายบัญชี และมีการแจ้งอายัดหลายครั้ง กรณีนี้ธนาคารกำลังหารือร่วมกัน และหากใครตกเป็นผู้ต้องหา ถูกอายัดบัญชีตำรวจจะประสานการอายัดบัญชีกับทางธนาคารเอง


โดย นายวรุณ กาญจนภู รองเลขาธิการสมาคมธนาคารไทยเปิดเผยว่าถูกแก๊งคอลเซนเตอร์โทรเข้ามาหลอกเช่นกัน แต่ทราบดีว่าไม่มีการแจ้งข้อหาทางโทรศัพท์และไม่มีให้โอนเงินไปตรวจสอบ โดยเฉพาะโอนไปชื่อบุคคล