'อัศวิน' จ๊ะเอ๋ 'ชัชชาติ' กลางศาลาว่าการกทม. อ้อนหากได้กลับมาเป็นผู้ว่าฯ จะดูแลให้ดีกว่าเดิม

สำหรับการหาเสียงของผู้สมัคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังเน้นการลงพื้นที่ไปยังกลุ่มประชาชนที่หลากหลาย โดยวันนี้ ทั้ง พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ไปหาเสียงตรงกันที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ เปิดเวทีปราศัยใหญ่ ผู้สมัคร ส.ก.ที่ลานคนเมือง

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ใช้เวลาวันนี้ในการลงพื้นที่หาเสียงที่ ศาลาว่าการ กทม. 1 และ ศาลาว่าการ กทม.2 โดย เดินแจกโปสการ์ด ที่มีข้อความขอโอกาสให้ได้กลับมาทำงานตามที่ตั้งใจไว้ และเป็นสิทธิของประชาชนที่จะตัดสินใจเลือกตั้ง โดยได้รับกำลังใจจากทั้งข้าราชการ และลูกจ้างกทม.ที่มากำลังใจ ขอถ่ายรูป และมามอบดอกไม้ ซึ่งพลตำรวจเอกอัศวิน ยอมรับว่า มีกำลังใจมากขึ้น และยิ่งทำให้อยากกลับมาทำงานต่อให้สำเร็จ ซึ่งยอมรับว่า ขณะนี้มีการโจมตี ใส่ร้ายกันสูงมาก แต่ไม่คิดโกรธใคร เพราะเป็นลูกผู้ชายที่ไม่เคยใส่ร้ายร้าย และไม่ใช่นักการเมือง แต่ต้องการมาทำงานเพื่อประชาชน อย่างที่ระหว่างเดินหาเสียงพบนายชัชชาติ ก็สวัสดีกัน ไม่คิดว่าใครเป็นศัตรู

ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 8 ได้ลงพื้นที่ศาลาว่าการ กทม.เสาชิงช้า และที่ ศาลาว่าการ กทม.2 ดินแดง พูดคุยกับข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานกทม. เพื่อรับฟังปัญหา และเสนอแนวคิด "โปร่งใส ไม่ส่วย ไม่เส้น" และเน้นย้ำให้ข้าราชการ "หันหลังให้ผู้ว่าฯ หันหน้าให้ประชาชน" มุ่งเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักในการพัฒนากรุงเทพฯ โดยย้ำว่าพร้อมทำงานกับข้าราชการกทม.ทุกคน และเสนอนโยบายเปลี่ยนศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เมือง และเปลี่ยนลานคนเมืองที่ปัจจุบันมักถูกล้อมรั้ว ไม่สามารถใช้งานได้ ให้เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับประชาชน ด้วยการย้ายส่วนราชการที่เดิม ไปยังศาลาว่าการ กทม. 2 ดินแดง ซึ่งเปิดใช้งานมาแล้วกว่า 5 ปี แต่ยังไม่สามารถย้ายส่วนราชการมาได้ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้นในการจัดการแสดงศิลปะ แสดงดนตรี และอื่นๆ

ด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่ากทม.หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายพนาวุฒิเดช ผู้สมัครส.ก.หมายเลข 3 เขตดอนเมือง ลงพื้นที่โรงเรียนวัดดอนเมือง ในวันเปิดภาคเรียนวันแรก ของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร นอกจากให้กำลังใจนักเรียน ผู้ปกครองและครูแล้ว น.ต.ศิธา ได้สอบถามถึงปัญหาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอม จึงมีนโยบาย “โรงเรียนดีใกล้บ้าน” ทำให้โรงเรียนทุกแห่งมีมาตรฐานเดียวกัน สร้างโอกาสให้แก่กลุ่มเปราะบางลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา

ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ลุยหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 50 เขต ทั้งในฝั่งธน เช่น นายวีรยุทธ ว่องศิริพร ผู้สมัครส.ก.เขตบางกอกน้อย หมายเลข 2 นายรัชพล ธรรมาคม ผู้สมัครส.ก.เขตบางกอกใหญ่ หมายเลข 2 ซึ่งเป็นทีมไทยสร้างไทยที่พร้อมทำงานร่วมกับ ผู้ว่าฯกทม.ที่คิดต่าง และพร้อมทำงานเพื่อเศรษฐกิจปากท้องของคนกรุงเทพ รวมถึงในเขตสวนหลวง ที่มีนายเอกรินทร์ อยู่บำรุง ผู้สมัคร หมายเลข 8 ที่ลุยหาเสียงท่ามกลางสายฝน เป็นนักพัฒนา ที่ต่างเป็นความคาดหวังเป็น ส.ก.ของพรรคไทยสร้างไทย

ด้าน พรรคพลังประชารัฐ จัดการปราศรัยใหญ่ ภายใต้สโลแกน #พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ โดยนายอภิชัย เตชะอุบล ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งสภากรุงเทพมหานคร กล่าเปิดเวทีปราศรัยว่า ส.ก.พรรคพลังปรารัฐ ทั้ง 50 เขต พร้อมจะเข้ามากำกับติดตามและตรวจสอบงบประมาณในการบริหารงานของผู้ว่าฯ กทม. ผู้ว่าฯกทม. เป็นฝ่ายบริหาร ส่วน ส.ก.เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ งเวลาที่ ส.ก.พรรคพลังประชารัฐ ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ ผู้ว่าฯ กทม.อย่างเข้มแข็ง เพราะการตรวจสอบถือเป็นหัวใจของการพัฒนากรุงเทพฯ ส.ก.พรรคพลังประชารัฐ ไม่ขึ้นกับใครทั้งสิ้น เพราะพรรคไม่ได้ส่ง ผู้ว่าฯ กทม. ที่ผ่านมาทนไม่ได้กับการบริหารงานของ ผู้ว่าฯกทม. ที่ล้มเหลวหลายโครงการ จึงต้องส่ง ส.ก.ทั้ง 50 เขต เข้ามาติดตามตรวจสอบ ดูแลและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน