สังคม

เอ๊ะทุกตรง DSI พบอีกพิรุธ ตึก สตง. ผู้เซ็นออกแบบโครงสร้าง อายุ 85 ปี

โดย panwilai_c

15 เม.ย. 2568

4.6K views

ประมาณบ่ายโมงครึ่งที่ผ่านมา นาย สมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน DSI ในฐานะพยาน คดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคาร A โดยมีพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมประชุม กับ ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภคด้วย ซึ่งในวันนี้นาย สมเกียรติ ได้เดินทางมาถึงห้องประชุมก่อนเวลาเล็กน้อย และเดินเข้าทางประตูด้านข้าง แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน



การประชุมครั้งนี้ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง จากนั้นพันตำรวจเอก ทวี เปิดเผยความคืบหน้าการทำคดีว่า DSI จะดำเนินคดีในเรื่องของการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในราชอาณาจักร หรือ คดีนอมินี



และอีกคดีหนึ่ง คือ คดีการประมูลงานก่อสร้างโครงการอาคารดังกล่าวว่า เข้าขายเป็นการฮั้วประมูล หรือทุจริตหรือไม่ โดยจะทำคดีคู่ขนานกันไป



สาเหตุที่วันนี้เชิญตัว นาย สมเกียรติ มาสอบในฐานะพยาน เนื่องจากคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร พบว่ามีชื่อนาย สมเกียรติ เป็นวิศวกรควบคุมงานในนามของกิจการร่วมค้า PKW ก่อนจะทราบภายหลังว่าเป็นลายเซ็นต์ที่ถูกปลอมขึ้น จึงให้นาย สมเกียรติ เซ็นต์ลายเซ็นต์ เพื่อนำไปเปรียบเทียบว่า ตรงกับลายเซ็นในเอกสารหรือไม่ และตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม หากพบว่าเป็นลายเซ็นปลอม ก็ต้องตามหาว่า โครงการดังกล่าวได้ควบคุมงานกันจริงหรือไม่ และใครต้องเป็นวิศวกรผู้รับผิดชอบ



โดยปกติแล้วหน่วยงานราชการ หากไม่มีกองออกแบบในสังกัด ก็จะมอบหมายให้กรมโยธาธิการ และผังเมือง หรือกรมศิลปากร ทำหน้าที่ออกแบบอาคารราชการ ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานต้องออกแบบให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน แต่กรมโยธาธิการและผังเมือง ชี้แจงว่า ไม่สามารถออกแบบได้ทันเวลาที่กำหนด จึงปฏิเสธรับงานดังกล่าว ทำให้ สตง. ไปว่าจ้างเอกชนออกแบบ แต่กลับพบว่า วิศวกรที่ลงชื่อเป็นผู้ออกแบบโครงสร้างตึก สตง.นั้น อายุมากถึง 85 ปี ซึ่งในประเด็นนี้พนักงานสอบสวนต้องไปขยายผล และรวบรวมพยานหลักฐานร่วมกับสภาวิศวกรในการตรวจสอบ



ด้านนาย สมเกียรติ ยังยืนเหมือนเดิมว่า ไม่ได้ควบคุมงานโครงการดังกล่าว และถูกนำชื่อไปแอบอ้าง ปลอมลายเซ็นจนกลายเป็นจำเลยสังคม



ส่วนเรื่องของคดีความแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนแล้ว ให้ปากคำและหลักฐานไปครบถ้วน หลังจากนี้จะดำเนินคดีกับใครบ้าง ต้องให้ตำรวจช่วยสืบสวน เพื่อติดตามตัวคนปลอมลายเซ็นต์มาดำเนินคดี กรณีที่ สน.บางซื่อออกหมายเรียกคนชื่อ ปฏิวัติ ยืนยันว่า ไม่รู้จัก และไม่ใช่คนที่ชวนเขามาร่วมสร้างตึก สตง.



เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามนาย สมเกียรติ ในเชิงหลักการวิศวกรรมเกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขปล่องลิฟท์ว่า จะมีผลต่อเรื่องรับน้ำหนักอาคารหรือไม่ นาย สมเกียรติ ชี้แจงว่า โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว ลักษณะตึกแบบนี้จะเรียกว่าเป็นตึกคอนกรีตเสริมเหล็ก ถ้าคอนกรีตรับแรงน้อยลง ก็ต้องเพิ่มเหล็กให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มแรงหรือถ้าเหล็กแพงก็สามารถเพิ่มคอนกรีตได้ ซึ่งจะต้องมีวิศวกรเป็นผู้ออกแบบและคำนวณ



ส่วนการแก้ไขแบบนั้น ผู้รับเหมาไม่สามารถเปลี่ยนแบบได้ตามใจตนเอง เพราะจะต้องส่งให้ consult ตรวจสอบ หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงสร้างทางวิศวกรรมก็ต้องส่งให้วิศวกรเจ้าของแบบตรวจสอบต่อ ถ้าวิศวกรเจ้าของแบบอนุมัติก็สามารถแก้ไขได้ เป็นขั้นตอนที่มีมาตรฐานอยู่แล้ว



ด้าน ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ บอกว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัว 3 นอมินีชาวไทยของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด แต่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินจากธนาคารตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยเฉพาะการชำระค่าหุ้น ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบพยานหลักฐานที่แน่ชัด ก็ไม่จำเป็นที่ต้องพบทั้ง 3 คนนั้นก็ได้



นอกจากนี้ พันตำรวจตรี วรณัน เปิดเผยว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ส่งหนังสือมายัง DSI ให้เข้าร่วมสอบสวนด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเก็บพยานฐานร่วมกับ สมอ.อยู่ หากพบว่ามีมูลความผิดเกี่ยวกับเหล็กไม่มีมาตรฐาน ก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/NtZkvX2xWaE

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ