สังคม

กู้ภัยขอโทษ ปมทิ้งศพในรถ 12 ชม. ชี้ไม่เห็นจริงๆ เข้าใจว่าไปรพ.แล้ว บก.ทล.สั่งตั้งกก.สอบยกชุด

โดย panwilai_c

12 ส.ค. 2565

342 views

ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำบนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ขณะที่กู้ภัยที่ไปจุดเกิดเหตุเผยตอนไปถึงที่เกิดเหตุไม่เห็นคนจริงๆ และไม่มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือ



พลตำรวจตรี เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง นำทีมกู้ภัย พนักงานสอบสวน และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ชี้แจงถึงอุบัติเหตุดังกล่าวว่า เหตุเกิดช่วง 7 โมง 52 นาที ของวันที่ 9 สิงหาคม เจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดแรกไปยังจุดเกิดเหตุและร่วมกันตรวจสภาพที่เกิดเหตุโดยละเอียด ยืนยันว่าไม่พบผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต จึงสันนิษฐานว่า ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวอาจถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดที่สองและตำรวจทางหลวง จึงได้เคลื่อนย้ายรถเก๋งที่เกิดเหตุ ไปเก็บไว้ที่หน่วยสอบสวนเขาเขียว ในเวลา 09.28 น.



จากนั้น พนักงานสอบสวนจึงได้ติดต่อสอบถามไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่เพื่อติดตามหาตัวผู้ขับขี่ แต่ยังหาไม่พบ จึงได้เข้าไปตรวจสอบที่รถอีกครั้งในเวลา 18.00 น. เพื่อจะค้นหาเอกสารเพิ่มเติม ถึงได้พบว่ามีผู้เสียชีวิตติดอยู่ที่บริเวณพื้นรถใต้พวงมาลัยฝั่งคนขับ โดยมีกองเสื้อผ้าปิดทับอยู่ จึงแจ้งให้ญาติผู้เสียชีวิตทราบ พร้อมส่งศพไปชันสูตรที่ สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งแพทย์ได้ระบุสาเหตุการตายว่า เสียชีวิตจากภาวะเลือดคั่งในช่องเยื่อหุ้มหัวใจเนื่องจากขั้วหัวใจฉีกขาด ปริแตก และกระดูกซี่โครงหัก



ล่าสุดกรมทางหลวงและกองบังคับการตำรวจทางหลวง ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยมีรองอธิบดีกรมทางหลวง (ฝ่ายบริหาร) เป็นประธาน หากพบความผิด ต้องรับโทษทันที



ด้าน นาย ภาสกร ศิริภาพ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ยกมือไหว้ขอโทษต่อหน้าสื่อมวลชน พร้อมกล่าวว่า ชุดกู้ภัยไปถึงที่เกิดเหตุภายใน 5 นาที พยายามมองหาคนในรถแล้วแต่ไม่พบ ไม่มีคราบเลือด และ ไม่พบสัญญาณขอความช่วยเหลือ เมื่อเปิดประตูฝั่งซ้ายก็ไม่พบใคร



ส่วนสาเหตุที่ไม่เปิดประตูฝั่งขวา เพราะตอนนั้นรถเอียงไปทางด้านขวา หากเปิดประตู ทรัพย์สินภายในรถจะตกหล่นออกมา ซึ่งตามข้อปฏิบัติแล้ว หากไม่พบใคร ก็จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สิน ต้องรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ



จากนั้นค้นหาในบริเวณใกล้เคียงโดยรอบก็ไม่พบ คาดว่าผู้ประสบเหตุอาจช่วยเหลือนำตัวเองออกมาจากรถได้ หรืออาจมีผู้หวังดีพาไปส่งโรงพยาบาลแล้ว จึงแจ้งไปในเบื้องต้นว่าไม่พบผู้ขับขี่



พันตำรวจเอก นายแพทย์ ปกรณ์ วะศินรัตน์ ผู้แทนสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ให้ความเห็นว่า ผู้เสียชีวิตแขนหักทั้ง 2 ข้าง มีการบาดเจ็บภายใน ซึ่งการบาดเจ็บหลัก คือ บริเวณทรวงอกที่เกิดจากกระแทกกับของแข็งไม่มีคม ทำให้กระดูกซี่โครงหักหลายซี่ทั้ง 2 ข้าง เกิดแผลที่หน้าอก ที่สำคัญมีการฉีกขาดของเยื่อหุ้มหัวใจและเลือดคั่งภายในเยื่อหุ้มหัวใจที่ค่อนข้างรุนแรง และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตหลังเกิดบาดแผลเพียงไม่กี่นาที



ส่วนกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตติดใจว่า หากมีการนำส่งโรงพยาบาลทันทีหลังเกิดเหตุ อาจจะไม่เสียชีวิตนั้น พันตำรวจเอกนายแพทย์ปกรณ์ กล่าวว่า จากลักษณะบาดแผลถือว่าค่อนข้างรุนแรง จึงมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เสียชีวิตในทันที



ขณะที่ พันตำรวจโท รัตพล วรรณะ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ยอมรับว่า ไม่ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ เพราะได้รับแจ้งมาว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี จึงประสานขอดูกล้องวงจรปิด และแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยกับ ตำรวจทางหลวงให้ไปตรวจสอบ ก่อนจะอนุญาตให้เคลื่อนย้ายรถได้เลย


รับชมได้ทางยูทูป :  https://youtu.be/NBnMq2EhlcU


คุณอาจสนใจ