สังคม

ตำรวจยัน "หมอบุญ-พวก" ตั้งใจหลอกประชาชนลงทุน 5 โครงการ มูลค่า 7,500 ล้านบาท

โดย kanyapak_w

4 ชั่วโมงที่แล้ว

782 views

ตำรวจยืนยันหมอบุญและพวก รวมกันหลอกประชาชนลงทุน 5 โครงการ มูลค่า 7,500 ล้านบาท พบพฤติกรรมเซ็นเช็คคำประกันเลี้ยงความผิดฟอกเงิน



จากกรณีมีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนว่า นายแพทย์ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลชื่อดัง หลอกลวงเงินผู้อื่นให้มาร่วมลงทุน ธุรกิจเกี่ยวกับโรงพยาบาล บริการทางการเเพทย์ มูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท



เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าทลายเครือข่าย นายเเพทย์ บุญ วนาสิน พร้อมกับผู้ร่วมขบวนการรวม 9 คน โดย "นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ต้องหา กับพวก" ตามความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2537 ผู้เสียหายจำนวน 247 คน



พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. เปิดเผยว่า ตั้งเดือนธันวาคม 2566 มีผู้เสียหายมาเเจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 1 ราย จากนั้นปี 2567 ตลอดทั้งปี จนกระทั่งถึงเดือนพฤศจิกายน รวม 247 ราย ตามพรบ.เช็ค จากนั้น สน.ห้วยขวางจึงส่งเรื่องมายังกองบัญชาการตำนครบาลว่า มีความสลับซับซ้อน จึงได้เเต่งตั้ง คณะ บกน.1 เป็นพนักงานสอบสวน ร่วมรวมพยานหลักฐาน พบพฤติกรรม ของนายเเพทย์บุญ เเละ พวกมีการระดมทุน ชักชวนจากตัวแทน บริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ว่าตนเป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ และ ครอบครัว



โดยมีการแจ้งว่า นำไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ 16,000 ล้านบาท ใน 5 โครงการ ประกอบไปด้วย โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า 4,000 พันล้าน , โครงการเวลเนเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมเเม่น้ำเจ้าพระยา 4,000-5,000 ล้าน , สร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว 3 เเห่ง รวม 2 พันล้านบาท , เข้าร่วมลงทุนโรงพยาบาลในเวียดนาม 4,000-5,000 ล้านบาท เเละ เมดิคอร์ อินเทเลเจนท์ บางละมุง ชลบุรี งบลงทุน 100ล้าน



โดย 5 โครงการดังกล่าว หลังระดมทุนเรียนบร้อยเเล้ว ก็จะให้ผู้เชียวชาญ บริษัทไทยเมดิคิลกรุ๊ป จำกัด หรือ TMG ดูเเลโครงการทั้งหมดเนื่องจากมีการเชี่ยวชาญด้านการเเพทย์ เข้ามาบริหารต่อ ยังมีเเผนการนำเข้าบริษัทตลาดหลักทรัพย์ในปี 2567



เเต่พฤติกรรมในการหาเเหล่งเงินทุน ของหมอบุญ เเละ พวกกับมีลักษณะการไปกู้ยืมเงินกับเเหล่งเงินกู้ โดยมีภรรยา เเละ ลูก สาว ผู้ค้ำประกัน เซ็นต์สลักหลังในเช็คทุกฉบับ มอบให้ผู้เสียหาย ในช่วงเเรกดอกเบี้ยในอัตราสูง ให้กับบางส่วนบางคน ต่อมาไม่มีการจ่ายเลย ทั้งเจ้าหน้าที่ยังพบว่า หลังจากได้เงิน ทุน 7,500 ล้าน พบว่าให้โบกเกอร์ทยอยไปถอนเงินครั้งละเป็นร้อยล้าน โดยโบกเกอร์จะได้ดอกเบี้ย เเละ เปอร์เซนต์เป็นค่าตอบเเทน ซึ่งการกระทำทั้งหมอบุญเเเละโบกเเกอร์ จะไปชักชวนผู้ร่วมลงทุน ที่เป็นนักเล่นหุ้น กระเป๋าหนัก โดยพบว่ามีผู้เสียหาย



ต่อมามากองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงได้แต่งตั้งตั้ง คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้น โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. เร่งดำเนินการโดยด่วน เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายสูง ผู้ที่เสียหายมากที่สุดที่ร่วมลงทุน มากที่สุดมากถึง 600-700 ล้าน เป็นนักธุรกิจที่หลงเชื่อว่าจะมีการลงทุนจริง รวมถึงบุคคลากรทางการเเพทย์ รวมทั้งหมด 247 คน ความเสียหาย 7,564 ล้านบาท ตั้งเเต่เดือนธันวาคม 2566 ถึงเดือนตุลาคม 2567



ส่วนเงินจำนวนดังกล่าวอยุ่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการนำไปใช้จ่ายในธุรกิจเครือข่ายโรงพยาบาลที่มีอยู่จริง 4-5 โรงพยาบาล จะต้องไปตรวจสอบ รวมถึงต้องไปตรวจสอบในช่วงที่มีการนำเข้าวัคซีนโควิด19 ว่าเงินดังกล่าวไปอยุ่ที่ไหน



นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า นายเเพทย์บุญ มีรถยนต์ 19 คัน พบว่าหายไป ส่วนอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงโฉนดที่ดิน พบมี 21 เเปลง พบว่ามีการยักย้ายถ่ายเทไปยังคนในครอบครัว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบว่า ทรัพย์สินดังกล่าวได้มาในช่วงปี 2567 หรือไม่ สำหรับผู้ร่วมขบวนการ



โดยศาลอาญาได้ออกหมายจับมี 9 ราย ประกอบด้วยกลุ่มที่ 1 คือ นายแพทย์บุญ นางจารุวรรณ อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ , นางสาวนลิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ



กลุ่มสอง คือ นางสาวศิวิมล อายุ 38 ปี ผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน



และ กลุ่มที่ 3 โบกเกอร์ คือ นางอัจจิมา อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน , นายภาคย์ อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ ผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน , นางภัทรานิษฐ์ อายุ 55 ปี เป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน ผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาค้ำประกัน



และ นายธนภูมิ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา ซึ่งขณะนี้ตำรวจจับได้เเล้ว 6 ราย และได้มีการนำตัวส่งศาลอาญาฝากขังเรียบร้อยเเล้ว



ส่วนหมอบุญได้ประสาน ตม. พบว่า พบว่าเดินทางออกจากไทยตั้งเเต่ 29 กันยายน เวลา 14.25 น. เส้นทางกรุงเทพ ฮ่องกง ล่าสุดพบว่า ทราบว่านายเเพทย์บุญ เดินทางต่อจากฮ่องกงไปจีนเเล้ว อยู่ระหว่างการประสานตำรวจสากล ส่วนลูกเมียอยู่ระหว่างติดตามตัวคาดว่าอยู่ในประเทศไทย



สำหรับพฤติการณ์ หมอบุญชุดสืบสวนพบว่า พยายามจ่ายเช็คให้กับเจ้าหนี้ โดยใช้เช็คที่ผู้เสียหายไม่สามารถนำไปใช้ดำเนินการขึ้นเงินได้




เพื่อหลีกเลี่ยงในเรื่องความผิดการฟอกเงิน ที่มีอัตราโทษสูง เเละจะต้องถูกยึดอายัดทรัยพย์ อีกทั้งพฤติกรรมกลุ่มผู้ต้องหายังทำการตลาด ซื้อโฆษณา สื่ออนไลน์ สำนักพิมพ์หลายเเห่ง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ



อย่างไรก็ตามจะพยายามถึงที่สุดในการตามล่าตัว ตามหาทรัพย์สินกลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้ ฝากถึงผู้ที่จะลงทุน ก่อนร่วมลงทุน ให้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าโครงการต่างจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่




แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,หมอบุญ ,ฉ้อโกง

คุณอาจสนใจ

Related News