สังคม

เปิดศึกถุงเงิน! ‘ทนายตั้ม’ แถลงแฉ ‘ชูวิทย์’ ไถสีเทา ไม่เชื่อรับเงินแค่ 6 ล้าน ยันไม่ได้รับงานใคร

โดย JitrarutP

23 มี.ค. 2566

268 views

ทนายตั้ม โพสต์ภาพถุงกระดาษใส่เงินสด 2 ถุง กว่า 6 ล้าน พร้อมระบุ “แฉไป ไถไป” รีดสีเทามา 50 ล้านบาท และล่าสุดออกมาแถลงเงินในถุงกระดาษ ยืนยันที่ออกมาแฉ ไม่ได้รับงานใคร



จากกรณีเมื่อวานนี้ (22 มี.ค. 66) ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ภาพถุงกระดาษ 2 ใบ ภายในมีเงินสดจำนวนมาก ประมาณถุงละ 3 ล้านบาท รวมกัน 6 ล้านบาท พร้อมข้อความสั้นๆ ว่า “แฉไป ไถไป” นั้น ทำให้เกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเมนต์ ช่วยกันขุดคุ้ยและวิเคราะห์ว่า บุคคลที่ทนายตั้มโพสต์ถึงนั้นหมายถึงใคร สุดท้ายทนายตั้ม เฉลยเองในคอมเม้นต์ว่า บุคคลดังกล่าวที่พูดถึงคือ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หรือเฮียชูวิทย์



ทนายตั้มได้มาตอบคอมเม้นต์ชาวเน็ตว่า หลังจากปล่อยโพสต์ดังกล่าวออกไป พี่ชูวิทย์ก็ออกมายอมรับแล้วนะครับว่ารับเงินนี้มาจากสารวัตรซัว ที่แกรับเพราะแกพอเดาได้ว่าผมมีอะไรมากกว่านี้ แต่ยอดนี้จะเอาไปบริจาคจริงหรือเปล่าพรุ่งนี้รู้กัน



ขณะเพจต่างๆ ต่างก็ออกมาโพสต์ เช่น “หมอแล็บแพนด้า” ทำภาพชูวิทย์กับทนายตั้ม พร้อมข้อความ คู่เดือด ศึกถุงเงิน 23 มีนาคม 2566, “อีเจี๊ยบเลียบด่วน” โพสต์ข้อความว่า ไฟท์หยุดโลก พรุ่งนี้ ชูวิทย์ vs ษิทรา ห้ามพลาด !! และ “Drama-addict” ก็ได้โพสต์ข้อความว่า สรุปที่เสี่ยชูออกมาโต้กลับคือใช่ มีคนยัดเยียดเงินเขาให้หยุดแฉ แต่เสี่ยแกแฉต่อ จนคนโดนแฉโดนหมายจับแล้วเอาเงินก้อนนั้นไปบริจาคการกุศล โคตรแสบ



ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทนายตั้มแถลงข่าวโดยเริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามว่า ก่อนหน้านี้ที่เฮียชูวิทย์ออกมาแฉ เรื่องทุนจีน เว็บพนันออนไลน์ ทนายตั้มรู้สึกชื่นชม และเห็นด้วยกับการกระทำนั้น แต่มาวันนี้ ทำไมถึงรับเงินบาปและไปอ้างว่า ทำบุญ บริจาคการกุศล ซึ่งจำนวนเงินที่ได้ข้อมูลมา เฮียชูวิทย์ได้เงินบาปมามากกว่า 6 ล้านที่นำไปบริจาค



ระหว่างแถลงข่าวทนายตั้ม เปิดภาพถุงกระดาษที่เป็นถุงใส่เงินในวันนั้นพร้อมจำลองลักษณะการวางเงินลงไปในถุง คำนวณความกว้าง ความยาว ความสูง เชื่อว่า ใส่เงินมากกว่า 6 ล้านบาทแน่นอน ซึ่งภาพนิ่งที่ทนายตั้มจำลองมา ยังมีการทำเป็นภาพกราฟิกแบบ 3D ด้วย แล้วข้อมูลที่ทนายตั้มได้มาเงินในถุง 2 ใบนั้น คือ 10 ล้านบาท



ทนายตั้ม ฝากคำถามถึงเฮียชูวิทย์ว่า ตอนนั้นก่อนที่สารวัตรซัวเป็นข่าว มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์และทีมงานสารวัตรซัว เดินทางมาที่โรงแรมเดวิสของเฮียชูวิทย์ นำเงิน 2 ถุงนี้มาให้ และมีคนสนิทของเฮียชูวิทย์ รวมถึงเฮียชูวิทย์อยู่ด้วย ซึ่งข้อมูลที่ทนายตั้มได้มาจำนวนเงินครั้งนั้น 10 ล้านบาทและมีจากเครือข่ายอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งละ 10 ล้านบาท ซึ่งเครือข่ายนี้มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มอาบอบนวดลาลิซ่าของเสี่ยกำพลและบ่อนที่เคยเป็นข่าวว่ามีการยิงกันจริงหรือไม่ อยากฟังคำอธิบายเพิ่มเติมจากเฮียชูวิทย์



นอกจากนี้ทนายตั้ม ยังถามเฮียชูวิทย์อีกว่า รู้จักนายแทนไทยใช่ไหม เพราะเฮียชูเคยโพสต์ถึงนายแทนไทย วันที่ 21 ม.ค. 66 ต่อมา 22 ม.ค.66 วันตรุษจีน



ทนายตั้ม ถามต่ออีกว่า กล่องดวงใจของเฮียชูวิทย์ได้พาแทนไทยไปหาที่โรงแรมเดวิสจริงหรือไม่ และหลังจากนั้นก็ไม่เคยพูดหรือโพสต์ถึงนายแทนไทยอีกเลย โดยหลังจากนี้จะนำเรื่องให้ตำรวจสอบสวนกลางตรวจสอบว่า มีการโอนเงินบัญชี meta mass ของกล่องดวงใจเฮียชูวิทย์ ว่ารับโอนเงินสกุลดิจิตอลกว่า 50 ล้านบาทจริงหรือไม่



ส่วนเรื่องบริจาคเงินให้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต 3 ล้านบาท โดยทนายตั้มเน้นไปที่คำพูดของเฮียชูวิทย์ ที่ให้สัมภาษณ์สื่อฯ ในวันนั้นว่า ได้ขอความช่วยเหลือจากพรรคพวกที่ทำงานสุจริต จึงอยากถามกลับว่า คำพูดของเฮียชูวิทย์วันนั้นกับวันนี้ มันดูย้อนแย้งกันหรือไม่



นอกจากนี้ทนายตั้ม กล่าวยืนยันว่า ที่ออกมาแฉเฮียชูวิทย์ เพราะผิดหวังกับการกระทำของชูวิทย์ ไม่ได้รับงานหรือรับเงินจากใคร และทนายตั้มเคยปฏิญาณกับตัวเองว่า จะไม่ทะเลาะกับ 3 คน คือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายชูวิทย์ กมลวิศิษย์ และ นายเสรีพิสุทธิ์ เตมียะเวช แต่วันนี้รู้สึกผิดหวังกับนายชูวิทย์ จึงต้องออกมากแฉ ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยมีสัมพันธ์อันดีกับนายชูวิทย์ อยากบอกว่าการกระทำครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะตัวเองตัดสินใจแล้วว่า ไม่เข้าร่วมพรรคการเมืองพรรคใด



สำหรับหลักฐานต่างๆ ที่ทนายตั้มนำออกมาแฉ ยืนยันได้มาจากหลานของเฮียชูวิทย์ส่งมาให้ ส่วนสาเหตุที่หลานของเฮียชูวิทย์ ส่งข้อมูลให้ตัวเองนั้นมาจากปัญหาภายในครอบครัวหรือไม่ ตัวเองไม่ทราบ



ขณะที่ความเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ได้โพสต์เฟซบุ๊กก่อนจะเปิดแถลงข่าวในเวลา 13.00 น. ระบุว่า แฉไป ไถไป เงิน 2 ถุง ถุงละ 3 ล้านที่ทนายตั้มพูดถึง เห็นแล้วจำได้ชัดเจน เป็นเงินที่นายตำรวจผู้ใหญ่นอกราชการคนหนึ่งที่ผมรู้จักมานาน นำมาให้ที่โรงแรมของผมโดยบอกว่าเป็นเงินของ "ซัว" ให้ผมช่วยหยุดโจมตี



ผมบอกไปว่าผมรับเคลียร์ ผมยังต้องแฉต่อ แต่นายตำรวจท่านดังกล่าวยัดเยียดให้ผมรับไว้ ผมเลือกนำเงินในถุงแรกจำนวน 3 ล้านไปบริจาคให้โรงพยาลธรรมศาสตร์ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ และอีกถุงซึ่งมี 3 ล้าน ไปบริจาคให้โรงพยาบาลศิริราช ในวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ทั้งสองครั้งมีสื่อไปทำข่าวเป็นสักขีพยาน



และผมก็ยังแฉเรื่อง "ซัว" อย่างต่อเนื่อง เงินที่ยัดมาไม่เคยคิดจะใช้ส่วนตัวแม้แต่สักบาทเดียว หากมี 50 ล้านมาให้อย่างทนายตั้มว่าจริงก็จะเอาไปบริจาคอีก



จะเรียกผมนักบุญคนบาป โรบินฮู้ด นักแฉใจบุญ หรือใครจะเอาอย่างผมก็ได้ แต่ส่วนใหญ่รับเข้ากระเป๋าตัวเองทั้งนั้นลองถามทนายตั้มดูสิ อย่ามาเรียกผมคนดี หรือศรัทธาผม ผมไม่ใช่ฮีโร่อยู่แล้ว ใครจะตราหน้าผม ผมก็รับอย่างหน้าชื่นตาบ้านว่าผมเป็นโจรที่เอาเงินบาปไปทำบุญ



คนที่จะถ่ายรูปถุงเงินนี้ได้ ก็น่าจะต้องเป็นเจ้าของเงิน คนที่ให้รูปทนายตั้มบอกว่ายังไง เงิน 50 ล้านที่ไหนผมจะรอฟัง



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/j4LDL-ngnL4

คุณอาจสนใจ

Related News