สังคม

แถลงจับ 'หมอบุญ' พร้อมพวก 9 ราย หลอกลงทุนธุรกิจการแพทย์ เหยื่อ 247 ราย เสียหายรวม 7.5 พันล้าน

โดย panwilai_c

23 พ.ย. 2567

10 views

คดีฉ้อโกงโดยการหลอกให้ลงทุน วันนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุม คดีนายแพทย์บุญกับพวก รวม 9 คน หลอกกู้เงินลงทุนในโปรเจคโรงพยาบาล คดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก รวมมูลค่าไม่น้อย 7,500 ล้านบาท มีรายงานว่า นายเเพทย์บุญ เดินทางออกนอกประเทศไปเเล้ว ส่วนภรรยาและลูกสาว เข้ามอบตัวเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา



พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าเเละความเคลื่อนไหวคดีที่ นายแพทย์บุญ ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลชื่อดัง พร้อมกับพวกรวม 9 คน หลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับโรงพยาบาล-บริการทางการเเพทย์ มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 7,500 ล้านบาท



โดยบอกว่า คดีนี้เริ่มจากมีผู้เสียหาย 1 คน แจ้งความดำเนินคดีกับนายแพทย์บุญกับพวกที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ในข้อหา พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2537 จากนั้นได้มีผู้เสียหายทยอยแจ้งความเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ รวม 520 คดี ผู้เสียหาย 247 ราย



พลตำรวจตรีนพศิลป์ บอกว่า พฤติกรรมความผิดของนายแพทย์บุญกับพวก จะระดมทุนโดยมีตัวแทน บริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ช่วยหาผู้ระดมทุนให้นายแพทย์บุญ และ ครอบครัว เพื่อลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ 5 โครงการ ประกอบด้วย



โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า 4,000 พันล้านบาท / โครงการเวลเนทเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมเเม่น้ำเจ้าพระยา 4,000-5,000 ล้าน สร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว 3 เเห่ง รวม 2 พันล้านบาท / เข้าร่วมลงทุนโรงพยาบาลในเวียดนาม 4,000-5,000 ล้านบาท เเละ เมดิคอร์ อินเทเลเจนท์ บางละมุง ชลบุรี งบลงทุน 100 ล้านบาท



โดยหลังระดมทุนใน 5 โครงการดังกล่าวแล้ว ก็จะให้ผู้เชี่ยวชาญ บริษัทไทยเมดิคิลกรุ๊ป จำกัด หรือ TMG ดูเเลโครงการทั้งหมดเนื่องจากมีการเชี่ยวชาญด้านการเเพทย์ เข้ามาบริหารต่อ และยังมีเเผนการนำเข้าบริษัทตลาดหลักทรัพย์ในปี 2567





และเมื่อได้เงินจากการกู้เงิน ก็จะให้ภรรยาและลูกสาวของนายแพทย์บุญ เป็นผู้ค้ำประกันและเซ็นสลักหลังเช็คทุกฉบับ มอบให้ผู้เสียหาย โดยตอนแรกจะชำระดอกเบี้ยคืนในอัตราที่สูง แต่ภายหลังก็ไม่จ่าย และยังจ่ายเช็คเด้งให้กับผู้เสียหาย เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดฐานฟอกเงิน นอกจากนี้ผู้ต้องหายังได้ซื้อสื่อต่าง ๆ เพื่อโฆษณาให้เกิดความน่าเชื่อถือ



นอกจากนี้ยังพบว่าหลังได้เงินทุน 7,500 ล้านบาทแล้ว โบรกเกอร์จะไปถอนเงินครั้งละหลักร้อยล้านบาท โดยโบรกเกอร์จะได้ดอกเบี้ย และเปอร์เซ็นต์เป็นค่าตอบแทน ประมาณ 1 แสนบาท ต่อ 10 ล้านบาท



จากการตรวจสอบทรัพย์สินของนายเเพทย์บุญ พบว่ารถยนต์ 19 คัน หายไป ส่วนอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงโฉนดที่ดิน พบมีจำนวน 21 เเปลง แต่ได้มีการถ่ายเทไปให้คนในครอบครัว หลังจากนี้จะตรวจสอบว่าทรัพย์สินดังกล่าวได้มาในช่วงปี 2567 หรือไม่



สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกศาลอาญาออกหมายจับในคดีนี้ ทั้ง 9 คน พบว่าแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือนายแพทย์บุญ นางจารุวรรณ ภรรยาของนายแพทย์บุญ และนางสาวนลิน บุตรสาวของนายแพทย์บุญ



กลุ่มที่สองประกอบด้วย ผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสารสัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน เลขาส่วนตัว และกลุ่มที่สามคือ โบรกเกอร์



โดยทั้งหมดถูกดำเนินคดี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ สมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฐานฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็ค



ขณะนี้ตำรวจจับได้เเล้ว 6 ราย และนำตัวส่งศาลอาญาฝากขังเเล้ว ส่วนนายแพทย์บุญ พบว่าเดินทางออกจากไทยตั้งเเต่ 29 กันยายน เส้นทางกรุงเทพ ฮ่องกง และล่าสุดได้เดินทางจากฮ่องกงไปประเทศจีน ซึ่งได้ประสานตำรวจสากลแล้ว



ขณะที่ภรรยา และลูกสาวของหมอบุญ ได้เข้ามอบตัวในช่วงบ่าย ทั้งคู่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ต่อมา นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความของผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ลูกความทั้ง 2 คน ถูกนายแพทย์บุญปลอมลายเซ็น แต่ยังไม่ได้มีการตรวจพิสูจน์ ทั้งนี้ได้มีการแจ้งความไว้แล้วกับตำรวจ ปอศ. ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และคดีอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลแพ่ง



โดยนางจารุวรรณ ได้หย่าร้างกับนายแพทย์บุญนานแล้ว และการปลอมลายเซ็นก็เกิดขึ้นหลังจากการหย่าร้างกัน ในช่วงที่นางจารุวรรณ เดินทางไปต่างประเทศ



ล่าสุด มีรายงานว่าพนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน และเตรียมนำตัวผู้ต้องหาไป คุมขังไว้ที่ สน.พญาไท 1 คืน และในวันพรุ่งนี้ จะนำตัวมาสอบปากคำที่ บช.น. อีกครั้ง



ระหว่างที่ตำรวจสอบปากคำภรรยาและลูกสาวหมอบุญ ได้มีผู้เสียหายมายื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน นายหมี หนึ่งในผู้เสียหายบอกว่า เขากับเพื่อนถูกหลอกลงทุนไปร่วม 170 ล้านบาท ไม่ได้รู้จักกับนายแพทย์บุญเป็นการส่วนตัว เเต่เห็นจากสื่อโฆษณา เเละเห็นว่าเป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ และก็ไม่เชื่อว่าภรรยาและลูกสาวของนายแพทย์บุญจะไม่รู้เห็นในเรื่องนี้ จึงมาคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน เพราะกลัวว่าหากได้ประกันตัวแล้วจะหลบหนี



ส่วนการที่นายแพทย์บุญหนีไปต่างประเทศ มองว่าเป็นการกระทำที่แย่มาก ทำให้คนอื่นเดือดร้อน



สำหรับพฤติการณ์หมอบุญ ชุดสืบสวนพบว่า พยายามจ่ายเช็คให้กับเจ้าหนี้ โดยใช้เช็คที่ผู้เสียหายไม่สามารถนำขึ้นเงินได้ เพื่อหลีกเลี่ยงในเรื่องความผิดการฟอกเงินที่มีอัตราโทษสูง เเละจะต้องถูกยึดอายัดทรัพย์ อีกทั้งพฤติกรรมกลุ่มผู้ต้องหายังทำการตลาด ซื้อโฆษณาสื่ออนไลน์สำนักพิมพ์หลายเเห่ง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งตำรวจ ยืนยันว่าจะพยายามถึงที่สุดในการตามล่าตัว เเละตามหาทรัพย์สินกลับมาคืนผู้เสียหาย

คุณอาจสนใจ

Related News