สังคม

เปิดขบวนการเครือข่ายการฟอกเงินรายใหญ่ของ ‘บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป’

โดย parichat_p

8 มี.ค. 2566

821 views

การที่ตำรวจไปยื่นศาลเพื่อขอให้อนุมัติหมายจับเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว อันสืบเนื่องมาจากการสอบสวนเครือข่ายการฟอกเงินรายใหญ่ ที่เชื่อมโยง จากประเทศเมียนมา มาไทย ส่วนหนึ่งถูกจับ ส่วนหนึ่งหลบหนี และยังเชื่อมโยงว่า ส.ว.คนหนึ่ง เคยถือหุ้นบริษัทฯที่พบว่า มีการฟอกเงิน ที่สำคัญยังมีชายอีกคน ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี คือนายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ หรือเอ็ดดี้ อายุ 45 ปี ชาวจังหวัดสงขลา ที่ข้อมูลระบุว่า เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ และเคยเชื่อมโยงโอนเงินกับผู้บริหารธุรกิจสลากกินแบ่งออนไลน์



หนึ่งในชื่อที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินของบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป ซึ่งถูกพูดถึงในช่วงที่ผ่านมามากที่สุดชื่อหนึ่ง คือนายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ หรือ เอ็ดดี้ หลังจากใช้เงิน 300 ล้านบาทซื้อหุ้นใน บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป ที่มีนายดีลยัง เป็นเจ้าของ โดยนายดีลยังเป็นลูกเขยสมาชิกวุฒิสภาคนหนึ่ง



จากบริษัทอัลลัวร์ กรุ๊ป และอัลลัวร์พีแอนอี ซึ่งมีผู้ถือหุ้น ใหญ่ คือนายทุน มินลัต นักธุรกิจชาวเมียนมา นายดีล ยัง และนายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ หรือเอดดี้ โดยบริษัททำธุรกิจขายกระแสไฟฟ้าให้ฝั่งท่าขี้เหล็ก และ เงินจากการขายกระแสไฟฟ้าพบว่าได้โอนเข้ามายังนายทุนมินลัต และสมาชิกวุฒิสภา



แต่การจ่ายเงินซื้อกระแสไฟฟ้า กลับพบว่ามีเงินจากเครือข่ายยาเสพติดจำนวน 4 เครือข่าย โอนเข้ามาเพื่อไปชำระค่าซื้อกระแสไฟฟ้า จนเป็นหลักฐานว่าบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป ฟอกเงินจากเครือข่ายยาเสพติด นำมาสู่การจับกุมนายทุนมินลัต นส.น้ำหอม ซึ่งเป็นเลขา นายดีลยัง ลูกเขย สมาชิกวุฒิสภา และ นส.ปิยะดา เลขา สมาชิกวุฒิสภา และนายพันณรงค์ หรือเอดดี้ และนส.กัลยวีร์ หรือจอย ภรรยาคนที่ 2



นายพันณรงค์หรือเอดดี้ ซึ่งมีกระแสข่าวว่าได้นำเงินจากธุรกิจผิดกฎหมายไปฟอกหลายพันล้านบาท รายได้หลักมาจากเว็บพนันออนไลน์ เมื่อตำรวจออกหมายจับภรรยาคนที่ 2 นายเอดดี้ก็หลบหนีออกนอกประเทศ โดยภรรยาได้กลับมามอบตัวและอยู่ระหว่างประกันตัว เมื่อข่าวรั่ว ว่าถูกออกหมายจับอีกหมาย พร้อมกับนายพันณรงค์


ในคดีฟอกเงินจากเครือข่ายยาเสพติด จึงได้หลบหนีไปต่างประเทศ ชุดจับกุมซึ่ง ขณะนั้นสังกัดกองกำกับการ 2 สืบสวนนครบาล จึงได้ให้ ปปง.อายัดทรัพย์สินเกือบ 700 ล้านบาท โดยมีทรัพย์สินเป็นที่ดินตั้งแต่เหนือ จรดใต้ ตามแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะ รร.ในซอยมหาดไทย 2 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 150 ล้านบาท และยังมีโรงแรมหรู ที่อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช มูลค่ากว่า 136 ล้านบาท รวมถือครองทรัพย์สินกว่า 681 ล้านบาท


ส่วนนส.กัลยวีร์ ภรรยาคนที่ 2 ก็มีทรัพย์สินเป็นที่ดินหลายไร่ ทั่วประเทศ ถือครองทรัพย์สินกว่า 416 ล้านบาท เป็นเพียงทรัพย์สินที่ตรวจได้รวมกันกว่า 1 พันล้านบาท


จากการเส้นทางการโอนเงินของเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ 4 เครือข่าย คือเครือข่ายของนายคิงนนทบุรี เครือข่ายนายอนุภาพ เครือข่ายนายอริย์ธัช และเครือข่ายนายเอกชัย ได้โอนเงินค่ายาเสพติดให้กับเครือข่ายนายพิศวัส


หลังจากนั้นมีการโอนต่อไปยังบัญชีม้าจำนวนมาก โดยมีบัญชีม้าได้โอนไปจ่ายค่าไฟฟ้า ซึ่งได้ทำสัญญากับบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ปจำนวน 250 บัญชี มีเงินหมุนเวียน 150 ล้านบาท


โดยเมื่อเดือนมกราคมที่ผานมา นายวรวัฒน์ วังศพ่าห์ ที่ปรึกษาผู้ชำนาญการ สมาชิกวุฒิสภาระดับพลเอกคนหนึ่ง ได้ถูกศาลตัดสินประหารชีวิต ในความผิด หลังพบว่า มีเครือข่ายยาเสพติดโอนเงินเข้ามา เพื่อไปจ่ายค่าน้ำมัน ที่ขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน

คุณอาจสนใจ