ชาวบ้านหลงป่าข้ามแดนไปในเขตฝั่งประเทศลาว ยังรอคอยการช่วยเหลือ ขณะญาติชาวบ้านทั้ง 7 ที่ถูกจับกุม วอนขอความช่วยเหลือจากทีมข่าวช่อง 3 ที่ อุบลราชธานี ประสานเจ้าหน้าที่ ตม.ฝ่ายไทยและ ตม.สปป.ลาว ฝากยารักษาโรคประจำตัว และติดต่อประสานให้คนในประเทศลาว ช่วยซื้ออาหารไปส่งให้คนทั้ง 7 ด้วย

ความคืบหน้าการช่วยเหลือ 7 คนไทย ถูกทางการ สปป.ลาว จับกุมตัวเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม เนื่องจากรุกล้ำแนวชายแดนไทย-ลาว เข้าไปเก็บเห็ด ในบริเวณพื้นที่ช่องทางธรรมชาติ อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ตรงข้ามกับเมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก สปป.ลาว โดยหลังคนไทยกลุ่มดังกล่าวถูกจับกุม ทางการลาวได้นำคนไทยทั้ง 7 ราย ไปอยู่ที่ศูนย์กักตัวหลัก 21 ของแขวงจำปาสัก

โดยนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ได้ประสานงานกับแขวงจำปาสัก เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ถูกจับกุม ซึ่งแผนกการต่างประเทศของแขวงจำปาสัก ได้มีหนังสือแจ้งการจับกุมคนไทยทั้ง 7 ราย อย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะกักตัวคนไทยเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของ สปป.ลาว ก่อนจะดำเนนิการตามกฎหมาย และส่งตัวกลับประเทศไทยต่อไป

ขณะที่ญาติของชาวบ้านที่ถูกจับกุม วอนขอความช่วยเหลือจากทีมข่าวช่อง 3 ที่อุบลราชธานี ช่วยประสานเจ้าหน้าที่ ตม.ฝ่ายไทย และตม.สปป.ลาว ฝากยารักษาโรคประจำตัว และติดต่อประสานให้คนใน สปป.ลาว ช่วยซื้ออาหารไปส่งคนทั้ง 7 ด้วย

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า สปป. ลาว ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่คนไทยทั้ง 7 รายนั้น นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า จากการตรวจสอบยังไม่มีการพิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้คนไทยทั้ง 7 รายแต่อย่างใด ซึ่งอาจทำให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หากมีการนำไปเปรียบเทียบเรื่องการฉีดวัคซีน

ด้านนายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้สัมภาษณ์กับ เพจอุบล คอนเนค ระบุว่า นายอำเภอได้ทำหนังสือรายงานมาถึงผู้ว่าราชการจังหวัดตามที่เป็นข่าวจริง โดยขั้นตอนปกติหากมีการข้ามเขตแดนผิดกฎหมายและถูกจับกุมจะต้องถูกดำเนินคดีที่ฝั่ง สปป.ลาว จนเสร็จสิ้นก่อน ถึงจะถูกส่งตัวกลับมา ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้เร่งประสานให้ส่งตัวคนไทย กลับมากักตัวที่ไทย

ส่วนเรื่องที่เป็นข่าวว่ามีการฉีดวัคซีน mRNA ให้ 7 คนไทยแล้ว ยังไม่ได้ยืนยันว่าฉีดจริงหรือไม่ เพราะเป็นอำนาจของกรรมการเฉพาะกิจของ สปป.ลาว ว่าจะกำหนดจะฉีดให้ใครหรือไม่อย่างไร ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะมีมติให้ฉีดหรือไม่

ซึ่งเมื่อเรามาดูเอกสารที่นายอำเภอสิรินธร ทำรายงานถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มีการระบุในตอนท้ายว่า "ทางการ สปป.ลาว จะดำเนินการตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ โดยจะทำการกักตัวก่อนเป็นเวลา 14 วัน เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด เมื่อครบกำหนดแล้ว จะทำการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยทั้ง 7 คน คนละ 1 เข็ม และจะส่งตัวกลับประเทศไทย"

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารจริง แต่เรื่องวัคซีน คืออาจจะฉีดให้ แต่เป็นการเจรจาเบื้องต้นของในส่วนผู้ปฏิบัติหน้างาน และล่าสุดสื่อลาวก็มีการนำเสนอข่าวว่า ยังไม่มีการได้รับฉีดวัคซีนแต่อย่างใด

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแห่งประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลกับกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า กรณีเก็บเห็ดในลาวแล้วได้ฉีดวัคซีนนั้น เป็นข่าวปลอม เนื่องจากทาง สปป.ลาว ยังไม่มีการพิจารณาฉีดวัคซีนให้คนไทยกลุ่มดังกล่าว จึงขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ แชร์หรือส่งต่อข้อมูลจนเกิดความสับสน และสร้างความตื่นตระหนก เพราะจะมีความผิดตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง