ไม่มีใครยอมใคร! ‘อาม่า’ ปากจัดจวกอริสร้างเรื่องเก่ง เพื่อนบ้านมือตบแฉโดนด่าสารพัด เอะอะหาแต่เรื่อง โทสะตบฟันร่วง

สังคม

ไม่มีใครยอมใคร! ‘อาม่า’ ปากจัดจวกอริสร้างเรื่องเก่ง เพื่อนบ้านมือตบแฉโดนด่าสารพัด เอะอะหาแต่เรื่อง โทสะตบฟันร่วง

โดย nicharee_m

23 ก.พ. 2564

2K views

วันที่ 23 ก.พ. 2564 รายการโหนกระแสพูดคุยกับอาม่าวัย 75 ปี และลูกชาย กรณีร้องเรียนสื่อมวลชนว่า ถูกผู้หญิงที่เป็นเพื่อนบ้าน และสามีรับราชการทหาร ทำร้ายร่างกายและเปิดร้านซ่อมไดนาโมจูนกล่องไฟฟ้ารถยนต์ ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกันทำร้ายร่างกาย


ลูกชายเล่าว่า บ้านที่เกิดปัญหาเป็นบริเวณอาคารพาณิชย์ริมฟุตบาท แยกสนามบินน้ำ ติวานนท์ ซึ่งเพื่อนบ้านได้เข้ามาเช่าพักอาศัยและเปิดร้านไดนาโมหลังตน จุดเริ่มต้นของปัญหา เป็นมลพิษทางเสียงและอากาศ จึงได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาช่วยแก้ปัญหา ตนจึงคิดว่าเป็นต้นเหตุทำให้เพื่อนบ้านโกรธเคือง และมายืนด่าทอ ทั้งยังถือปืนขู่หน้าบ้าน


ขณะที่เจ้าของร้านคู่อริ เพื่อนบ้านอาม่า กล่าวว่า คลิปที่สามีตนถือปืนขู่ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2561 ในวันนั้นอาม่าโยนขยะทิ้งลงมาจากบนบ้าน จนขยะกระจัดกระขายเต็มถนน และเมื่อขอพูดคุยแต่กลับถูกปฏิเสธ ต่อมาเมื่อ 2 ธ.ค. ปีเดียวกัน ลูกชายอาม่าจึงไม่แจ้งความ และได้มีการยอมความไปแล้ว


สำหรับคลิปที่ปรากฏ เห็นภาพตนกำลังกระชากแขนอาม่า เพื่อบ้านเผยว่า เพราะทนเสียงด่าไม่ไหวจึงจะชวนอาม่าไปสถานีตำรวจ จนวิสาสะใช้ความรุนแรง ส่วนเหตุการณ์ที่อาม่าเลือดกลบปากฟันร่วง เกิดขึ้นเมื่อปี 2562 โดยอ้างว่า อาม่าโยนขวดแก้วลงมาจากบนบ้านจนเกือบโดนตนบาดเจ็บ ทำให้ตนเกิดโมโหเพราะพฤติกรรมของอาม่า อ้างว่ามีเจตนาเอาถึงชีวิต แต่ทั้งนี้พฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรงกับอาม่า ตนยอมรับผิด และปฏิเสธว่าสามีตนไม่ได้ชักปืนขู่แต่อย่างใด


ด้านอาม่าปฏิเสธว่าไม่เคยทำพฤติกรรมดังกล่าง และไม่เคยพูดคุยกับเพื่อนบ้านคู่อริเลย โดยจะขอดำเนินคดีเพื่อนบ้านให้ถึงที่สุด


ขณะที่ ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมสภาทนายความ เผยถึงข้อกฎหมายว่า อย่างไรก็ตาม หากอาม่ามีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย และด่าทอ เพื่อนบ้านมีสิทธิดำเนินคดี แต่ไม่มีสิทธิทำร้ายร่างกายใครทั้งสิ้น และในส่วนที่ปรากฏคลิปของสามีที่ชักปืนขู่ แต่การนำปืนออกมาในที่สาธารณะเป็นอาวุธโดยสภาพ ไม่สามารถปฏิเสธได้ ถือว่าเป็นการข่มขู่

คุณอาจสนใจ

Related News