วันที่ 16 ก.พ. 2564 รายการโหนกระแสพูดคุยประเด็นฮือฮา ที่นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยว่า เนื่องจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่เจาะบ่อน้ำบาดาลใน ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ที่มีอยู่ทั้งหมด 21 หมู่บ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งของประชาชนในพื้นที่ 

กระทั่งสามารถเจาะบาดาลที่หมู่ 12 บ้านพะยอมงาม ได้ 4 บ่อ ปริมาณน้ำที่พัฒนาได้ 52 ลบ.ม./ชั่วโมง (ชม.) และที่หมู่ 19 บ้านทุ่งคูณ อีก 2 บ่อ ปริมาณน้ำที่พัฒนาได้ 66 ลบ.ม./ชม.คิดปริมาตรรวมกว่า 1,700,000 ลบ.ม./ปี ประชากรจะได้รับประโยชน์ 15 หมู่บ้าน 7,000 กว่าครัวเรือน พื้นที่เกษตร 6,000 ไร่ พบ 1 ในบ่อบาดาลที่เจาะลึกลงไป 303 เมตร ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาย 3363 หมู่ 19 บ้านทุ่งคูณ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา แหล่งน้ำพุธรรมชาติที่มีลักษณะพิเศษ ที่มีรสซ่าคล้ายกับโซดา

พื้นที่ที่พบแหล่งน้ำแร่โซดานี้ เป็นรอยแตกของชั้นหินแปร ที่อยู่ลึกลงไปจากพื้นดิน 303 เมตร เมื่อเจาะลงไปถึงพบน้ำดังกล่าวพุขึ้นมาเองทันที โดยพุ่งขึ้นมาในปริมาณมากกว่า 50 ลบ.ม.ต่อชั่วโมง

ขณะที่ นายศุภเวท ทองประยูร ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 8 ราชบุรี เผยว่า ที่รสชาติของบาดาลมีความซ่า เนื่องจากคาร์บอนไดออกไซด์ที่อยู่ในธรรมชาติเมื่อสัมผัสในน้ำจึงเกิดรสชาติซ่า แต่เมื่อระเหยไปรสชาตินั้นจะหายไป ซึ่งคุณภาพคล้ายกับน้ำแร่ของต่างประเทศ มีความสะอาดและปลอดภัย ทั้งยังมีแร่ธาตุสูง

ทั้งนี้ ในน้ำดังกล่าวมีสีขุ่นและมีกลิ่น ซึ่งเป็นส่วนผสมของเหล็ก หากดื่มต้องมีกรรมวิธีน้ำเหล็กออก โดยในอนาคตทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะดำเนินการแก้ปัญหาภัยแล้ง สร้างระบบกระจายให้กับประชาชนได้ใช้ประโยชน์