'ชัชชาติ' เสนอปรับโซนนิ่งสถานบริการใหม่ ให้ตรงตามสภาพสังคมจริง

ผู้ว่าฯชัชชาติ เน้นย้ำความปลอดภัยสถานบริการ ต้องป้องกันเหตุอัคคีภัย และเตรียมหารือตำรวจนครบาล ก่อนเสนอกระทรวงมหาดไทย ปรับพื้นที่โซนนิ่งสถานบริการให้ตรงตามสภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคม

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า ในกฎหมายสถานบริการ ปี 2548 เขียนจำกัดความไว้ค่อนข้างกว้าง ว่า ร้านอาหารที่มีดนตรี ต้องมีทางหนีไฟอย่างน้อย 2 ทาง ซึ่งเขตจตุจักรมีสถานบริการ 49 แห่ง

หลายๆร้าน เป็นร้านอาหารที่มีดนตรีเล่น ส่วนตัวมองว่า หากมีการทำทางหนีไฟเพิ่มก็ไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งเรื่องปัญหาไฟไหม้หรืออัคคีภัยเป็นสิ่งที่ต้องระวัง โดยเฉพาะร้านอาหารที่มีชั้น 2 ถือว่าอันตรายมาก หากไฟไหม้ชั้นล่าง มีทางขึ้นลงทางเดียว ควันจะลอยอยู่ด้านบน ก็อาจจะหนีได้ยาก

ส่วนระเบียบการจัดโซนนิ่งในพื้นที่กทม. ที่มีมาตั้งแต่ 2545 นั้น แม้เป็นนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่อำนาจของ กทม.โดยตรง แต่จะให้มีคณะทำงานของกทม.ร่วมหารือกับตำรวจนครบาล เสนอกระทรวงมหาดไทย ปรับพื้นที่โซนนิ่งใหม่ ให้เหมาะสมกับสภาพการเปลี่ยนแปลงทางสังคม อย่างถนนข้าวสาร ก็ไม่ได้อยู่ในโซนนิ่ง และตอนนี้ผับก็อยู่แถวทองหล่อเยอะ ก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่โซนนิ่ง รวมถึงซอยอารีย์ ก็ไม่อยู่ในโซนนิ่งสถานบริการเช่นกัน ดังนั้นต้องหารือกัน

ตามกฎหมายกฤษฎีกา เดือนมิถุนายน ปี 2545 การจัดระเบียบพื้นที่โซนนิ่งสถานบริการ ในกทม.ของกระทรวงมหาดไทยมี 3 แห่ง ได้แก่ โซนบางรัก - พัฒน์พงษ์ โซนห้วยขวาง - สุทธิสาร - รัชดา และโซน มักกะสัน - เพชรบุรีตัดใหม่-RCA

ด้าน พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. อธิบายถึงการจัดโซนนิ่ง และใบอนุญาตด้วยว่า เพื่อให้สังคมเกิดความเป็นระเบียบได้อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งปัจจุบันโซนนิ่งที่จัดไว้เมื่อ20ปีก่อน มีความเปลี่ยนแปลง บางโซนค่อนข้างจะเงียบแล้ว

รับชมทางยูทูปที่ :https://youtu.be/_3stCAilMJY