เลือกตั้งและการเมือง
นายกฯมองสภาฯล่ม เป็นกลไกรัฐสภาเห็นต่างได้ ยันพรรคร่วมรัฐบาลคุยกันแล้ว
โดย chutikan_o
13 ก.พ. 2568
180 views
นายกฯมองสภาฯล่มเป็นกลไกรัฐสภาเห็นต่างได้ ยันพรรคร่วมรัฐบาลคุยกันแล้ว ชี้เป็นสิทธิของแต่ละพรรค หลังบางพรรคอยากให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความเพื่อความชัดเจนถูกต้อง ยันเพื่อไทยไม่หน้าอย่างหลังอย่าง ย้ำจุดยืนเดิมแก้แตะหมวด 1-2
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อเปิดทางให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ล่ม ว่า จะได้เห็นทั้ง สส.และ สว. ก็คิดต่างกันได้ ซึ่งก็ไม่เหนือความคาดหมาย
เมื่อถามต่อว่า พรรคฝ่ายค้านโจมตีพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อย่างพรรคเพื่อไทย ไม่สามารถควบคุมเสียงได้จนทำให้สภาล่ม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จริงๆ แล้วเป็นกลไกทางรัฐสภา เมื่อทั้งสองสภามีความเห็นที่แตกต่างกันก็จะเป็นเช่นนี้ ถ้าเรื่องใดที่เห็นตรงกันก็จะไม่ออกมาเป็นแบบนี้
เมื่อถามต่อว่า เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย คือการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยใช่หรือไม่ เนื่องจากมี สส.บางส่วน ลงชื่อสนับสนุนญัตติของนายแพทย์เปรม เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค มีความเห็นว่าอาจจะต้องส่ง เพื่อที่จะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฏหมาย
เมื่อถามต่อว่า นโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา จำเป็นที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องพูดคุยกันหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่ามีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้แล้ว
ส่วนจะมีการพูดคุยกันต่อหลังจากนี้หรือไม่ เพื่อให้การทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลมีเอกภาพ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นข้อเสนอของแต่ละพรรค ที่เสนอมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง และทราบอยู่แล้วว่าแต่ละพรรคนั้นเสนออย่างไร และได้พูดคุยกันและยอมรับว่า มีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกัน
เมื่อถามต่อว่าเมื่อเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา จำเป็นต้องปรับจูนกับความคิดเห็นของพรรครัฐบาลที่เห็นไม่ตรงกันหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลายเรื่องมีความคิดเห็นที่ตรงกัน แต่เมื่อเป็นรัฐบาลผสม จะมีความคิดเห็นเหมือนกันร้อยเปอร์เซ็นต์ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็เคารพสิทธิของกัน
เมื่อถามต่อว่า แม้ว่าฝ่ายบริหารจะสามารถทำงานร่วมกันได้ แต่ฝ่ายนิติบัญญัติเห็นต่างกัน จะไม่เป็นปัญหาใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่าทราบอยู่แล้วว่ามีความเห็นที่แตกต่างกัน
เมื่อถามต่อว่าจากกรณีดังกล่าวพรรคเพื่อไทยอาจถูกมองว่าหน้าอย่างหลังอย่าง เพราะตอนหาเสียงผลักดันการแก้ไขธรรมนูญ แต่เมื่อเข้าขั้นตอนสภา ก็ปล่อยให้เป็นไปตามระบบ นายกรัฐมนตรีถึงกับย้อนถามว่าอย่างไรหรือคะ แล้วกล่าวต่อว่า ไม่ใช่หน้าอย่างหลังอย่าง เรายังยืนอยู่จุดยืนเดิม ไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 ก็ผลักดันไป แล้วต้องใส่ความก้าวร้าวหรืออย่างไร ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นการรักษาไว้ซึ่งความสงบ และคุยกันด้วยเหตุผล แสดงจุดยืนทางประชาธิปไตยของตัวเองก็แค่นั้น
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีปฏิเสธการตอบคำถามถึงการวางแนวทางของพรรคเพื่อไทยในการประชุมร่วมรัฐสภาต่อในวันพรุ่งนี้ (14 ก.พ. 2568)
แท็กที่เกี่ยวข้อง นายกฯ ,สภาล่ม ,พรรคร่วมรัฐบาล ,กลไกรัฐสภา