เลือกตั้งและการเมือง

‘ศุภชัย’ ย้ำ กัญชา ไม่ใช่ยาเสพติดตามกฎหมายใหม่ แนะ ป.ป.ส. อย่าบังคับเกินเลย

โดย JitrarutP

12 ม.ค. 2565

465 views

ส.ส.ศุภชัย ย้ำ กัญชา ไม่ใช่ยาเสพติดแล้วตามกฎหมายใหม่ สามารถปลูกได้ ภูมิใจไทยพร้อมสู้คดีหากมีคนถูกจับ แนะฝ่ายปฏิบัติอย่าบังคับใช้กฎหมายเกินเลย


จากกรณีที่ โฆษกสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ออกมายืนยันว่า การปลูกกัญชาเองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะกัญชายังเป็นยาเสพติดประเภท 5 สืบเนื่องมาจากที่ก่อนหน้านี้ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่า พรรคภูมิใจไทยประกาศปลูกกัญชาถูกกฎหมาย อาสาส่งทนายไปช่วยเหลือหากใครถูกจับกุม เพราะปลูกกัญชา


ล่าสุด นายศุภชัย ใจสมุทธ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง กรณีมีการบังใช้กฎหมายเพื่อจุบกุมผู้ที่ปลูกพืชกัญชาในช่วงนี้ โดยย้ำว่าขณะนี้ มีการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่ เรียกว่าประมวลกฎหมายยาเสพติด ตามพ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 2564 ส่งผลให้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ที่กำหนดให้พืชกัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท5 นั้นถูกยกเลิกไป



นายศุภชัย กล่าวว่า ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่บังคับใช้ใหม่ นั้นไม่มีการระบุว่า พืชกัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษ อีกต่อไป ดังนั้นวันนี้เรียกได้ว่า “กัญชา” ไม่ใช่ยาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด การปลูกพืชกัญชาจึงสามารถได้ แต่ในมุมมองของผู้บังคับใช้กฎหมายมองว่า ยังมีประกาศตามกฎหมายเดิมว่ากัญชาเป็นยาเสพติด และประกาศนั้นยังไม่ถูกยกเลิก การปลูกกัญชาจึงต้องขออนุญาตเงื่อนไข ทั้งที่ในมุมมองของตนนั้นเมื่อมีกฎหมายใหม่ออกมาประกาศดังกล่าวก็ถูกยกเลิกไปด้วยตามกฎหมายเก่า เพราะมันขัดกับกฎหมายปัจจุบัน ซึ่ง มาตรา 8 ของ พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ก็กำหนดชัดว่า บรรดากฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามกฎหมายเดิม ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับประมวลกฎหมายยาเสพติด ดังนั้นเมื่อประกาศเดิมขัดกับประมวลกฎหมายยาเสพติด ก็ไม่สามารถบังคับใช้ได้


นายศุภชัย ยืนยันว่าในมุมมองของตนเองนั้นกัญาปลูกได้ แต่คงห้ามตำรวจ หรือ ป.ป.ส. ที่จะไปจับกุมไม่ได้เพราะขึ้นอยู่กับการตีความ แต่พรรคภูมิใจไทยพร้อมที่จะสู้คดีให้ หากมีการจับกุมเกิดขึ้น โดยเฉพาะหากเห็นว่ามีการจับกุมโดยไม่มีอำนาจแล้วอยากจะฟ้องตามมาตรา 157 ตนก็จะฟ้องให้


ผู้สื่อข่าวว่า เป็นเพราะกฎหมายไม่ชัดเจนหรือไม่เหตุใดจึงตีความต่างกัน นายศุภชัย ยืนยันว่ากฎหมายที่ออกมามีความชัดเจน แต่การตีคตวามต้องตีความตามเจตนารมณ์กฎหมายซึ่งเจตนารมณ์ของกฎหมายไม่ได้ระบุว่ากัญชาเป็นยาเสพติดเหมือนกฎหมายเก่า และในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในชั้นกรรมาธิการ และในการแปรญัตติของ วุฒิสภา ก็ไม่มีใครสงวนความเห็นว่าให้กำหนดกัญชาเป็นยาเสพติดไว้ในประมวลกฎหมายยาเสพติด จึงเห็นได้ว่า


“ฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งมีหน้าที่ออกกฎหมายของประเทศนี้ พิจารณาแล้วว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติด เพราะฉะนั้นผู้ปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กกฎหมายก็อย่าไปตีความให้ขยายออกไป เพราะคดีอาญาต้องตีความโดยเคร่งครัด”



คุณอาจสนใจ

Related News