เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 11 ส.ค.65 สภาล่ม สูตร 500 ส่อแท้ง - ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% - ปล่อยศพในซากรถ12ชม.

-เจ้าหน้าที่ไล่ภาพวงจรปิดล่าตัวผู้ก่อเหตุ อุ้มเด็กชายวัย 2 ขวบไปจากที่นอนในบ้านพัก และพบจุดเกิดเหตุเด็กถูกทำร้าย - โดนไฟจี้เป็นแผลเกือบทั้งตัว เจอทั้งก้านธูปเพิ่งถูกจุด และรอยเท้าเด็กผู้ใหญ่เดินย่ำไปมา ส่งพิสูจน์หลักฐานเก็บหารอยนิ้วมือแฝงล่าตัวคนร้าย

-รับศพพลทหาร เหยื่อไฟไหม้ผับ Mountain B เสียชีวิตเพิ่ม เป็นรายที่ 16 พ่อยันลูกชายเป็นแขกที่ไปเที่ยว ส่วนสาเหตุการตาย เพราะมีบาดแผลจากไฟไหม้ลึกและเกิน 80 % ส่วน 3 นักดนตรีวง “แต๋วแหวว” พ้นขีดอันตรายแต่ยังสาหัส เพราะถูกไฟไหม้เกินกว่า 50% ตอนนี้เหลือผู้บาดเจ็บยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 30 ราย ในจำนวนนี้ใส่ท่อช่วยหายใจ 16 ราย

-ตำรวจทางหลวง แจงดรามา กู้ภัยปล่อยร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ในซากรถที่ประสบอุบัติเหตุก่อนมาพบหลังลากซากไปเก็บแล้ว 12 ชั่วโมง เพราะกองเสื้อผ้าผู้ตาย ร่วงมาทับร่างที่อยู่ใต้พวงมาลัย และเข้าใจว่ามีคนนำร่างคนขับไปส่งโรงพยาบาลแล้ว ด้านลูกสาวผู้ตายรอผลชันสูตรรับร่างไปประกอบพิธี ล่าสุดกรมทางหลวงสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงด่วน

-นายกเทศมนตรีหัวร้อน เจอคนรู้จักกอดคอระหว่างก๊งเหล้า ล้วงปืนมาขึ้นลำกล้องขู่จะยิง จนคนร่วมวงต้องช่วยห้าม ก่อนวงจรปิดโผล่ จนนายกฯ ออกมาแจงว่าเมา เข้าใจผิดว่าถูกตบหัว ด้านคู่กรณีเผยไม่รู้ตัวทำอะไรลงไป มาเห็นคลิปตกใจมาก ยันไม่ได้ตั้งใจจับหัวนายกฯ นำธูปเทียนเข้าขอขมา

-ผวาทั้งเจริญกรุง หนุ่มคลั่งเอาเหล็กไล่ทุบรถเมล์ปรับอากาศสาย 75 กลางถนน ชาวบ้านเห็นอาละวาดประจำ อยู่ในตึกร้างนับ 10 ปี ไม่มีหน่วยงานไหนดูแล โชเฟอร์ บอก 3 เดือนทุบไปแล้ว 3 คัน ต้นเหตุจากถูกไล่ลงจากรถเพราะไม่สวมแมสก์เลยเกิดความแค้น

-หลานของสาวในคลิปตามด่า เขย่าประตู คุกคามเพื่อนบ้านนาน 5 ปี แจงมีอาการป่วยทางจิต และฝังใจที่เคยถูกเจ้าของบ้านคนเก่ายิงจนบาดเจ็บสาหัส ส่วนสามีก็ถูกยิงเสียชีวิต ด้านเพจสายไหมต้องรอดที่เปิดประเด็นนี้ขอเจรจาก่อนหาข้อสรุป

-กรมการแพทย์ เปิดแนวทางจ่ายยาผู้ติดโควิด-19 หลังประกาศเป็นโรคเฝ้าระวัง ใช้แนวทางเดิม แยก 4 กลุ่ม ย้ำอย่าซื้อยากินเอง ต้องสั่งโดยใช้ใบแพทย์ เพราะยาบางตัวเสริมฤทธิ์กันเอง หวั่นเกิดอันตราย  

-กนง.มีมติ 6 ต่อ 1 ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 0.50 เป็นร้อยละ 0.75 ถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี เห็นเพราะเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ด้าน รมว.คลัง ขอแบงก์พาณิชย์ ตรึงดอกเบี้ยให้นานที่สุดลดภาระให้ประชาชนและผู้ประกอบการ


เรื่องเล่าการเมือง

-ประเด็นใหญ่ของการเมือง คือเรื่องการพิจารณากฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ซึ่งในที่สุดเมื่อวานสภาก็ล่ม ทำให้สูตรหา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แบบหาร 500 น่าจะแท้ง ซึ่งนอกจากพรรคเพื่อไทยจะวอล์คเอ้าท์ ส.ส.พรรคพลังประรัฐส่วนใหญ่ก็ไม่อยู่ห้องประชุมด้วย

การประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งเมื่อวาน เริ่มในช่วง 10.45 น. ซึ่งก่อนเข้าสู่วาระการพิจารณา นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เสนอให้ตรวจสอบองค์ประชุม

จากนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้เดินออกจากห้องประชุมไปเกือบทั้งหมด เหลือนั่งอยู่เพียง 2 คน คือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค

ขณะพรรคพลังประชารัฐ ก็มี ส.ส.นั่งเข้าร่วมประชุม อยู่อย่างประปราย ตั้งแต่เริ่มประชุม อย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็มีสมาชิกมาแสดงตัวครบองค์ประชุม และเข้าสู่การพิจารณาเรียงตามมาตรา เริ่มจากมาตรา 24/1

แต่เมื่อพิจารณาจบมาตรา ก็ต้องมีการลงมติ ก่อนลงมติก็ต้องมีการตรวจสอบองค์ประชุม ซึ่งระหว่างการตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการกดบัตร ส.ส.พรรคเพื่อไทยพยายามขอให้มีการแพนกล้องบันทึกภาพให้ทั่วห้องประชุม เพื่อให้รู้ว่ามีใครอยู่ในห้องประชุมบ้าง เนื่องจากเกรงว่าจะมีการกดบัตรแทนกันเกิดขึ้น

ผลนับคะแนนปรากฏว่ามีผู้แสดงตน 367 คน เกินครึ่งมาเพียง 3 คน (องค์ประชุมคือครึ่งหนึ่งของสมาชิก ซึ่งตอนนี้มี 727 คน ครึ่งหนึ่งคือ 364 คน)

สำหรับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีผู้แสดงตนเพียง 8 คน จาก ส.ส. ทั้งหมด 132คน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส.แสดงตน เพียง 7 คน จากทั้งหมด 97 คน

จากนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เสนอญัตติให้ตรวจสอบองค์ประชุมอีกด้วยวิธีขานชื่อ ซึ่งที่ประชุมใช้เวลาขานชื่อและรวมคะแนนเกือบ 2 ชั่วโมง สุดท้ายมีผู้แสดงตน 403 คน ครบองค์ประชุม

จากนั้นเป็นการลงมติ มาตรา 24/1 แต่ปรากฏว่าใช้เวลาอยู่นานถึง 25 นาที ที่สุด เวลา 16.15 น. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานในที่ประชุม จึงแจ้งว่า มีสมาชิกร่วมลงมติไม่ครบองค์ประชุม และสั่งปิดประชุมทันที รวมแล้วใช้เวลายื้อการประชุมอยู่เกือบ 6 ชั่วโมง แต่สุดท้ายก็ยื้อไม่อยู่

สำหรับพรรคพลังประชารัฐ ถึงแม้จะไม่มีการประกาศว่าจะไม่ร่วมแสดงตนเหมือนพรรคเพื่อไทย แต่ชัดเจนว่าระหว่างการประชุมเมื่อวานมี ส.ส.นั่งอยู่น้อยมาก บางช่วงที่นั่งของพรรคว่างเกือบทั้งหมด

และมีรายงานว่า บางช่วงที่มี ส.ส. บางส่วนอยู่ในห้องประชุม ได้มีแกนนำพรรคเดินมากำชับให้ออกจากห้องประชุม รวมถึงมีโทรศัพท์จากบุคคลสำคัญ คือ พล.อ.ประวิตร มาแจ้งให้ ส.ส.ออกจากห้องประชุมด้วย

อย่างไรก็ตาม น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ ได้โทรศัพท์ต่อสายตรงหา ส.ส.ของพรรค เพื่อไม่ให้อยู่เป็นองค์ประชุมสภาฯ การที่ ส.ส. ของพรรค ที่ไม่ได้แสดงตนในวันนี้ ถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. แต่ละคน



-หลังจากสภาล่มไปแล้ว โอกาสที่รัฐสภาจะพิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้งให้เสร็จภายในกรอบ 180 วัน ก็เป็นไปได้ยาก

นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เปิดเผยภายหลังสภาล่ม ว่า ไม่แน่ใจว่าจะสามารถเปิดประชุมอีกครั้งได้ทันวันที่ 15 ส.ค.หรือไม่ เพราะเสาร์ - อาทิตย์นี้ ก็เป็นไปได้ยาก เนื่องจากสมาชิกต้องลงพื้นที่ ส่วนวันที่ 15 ส.ค.ก็เป็นวันประชุมวุฒิสภา

ขณะที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ในวันที่ 15 ส.ค. จะตรงกับวันนัดประชุมของวุฒิสภา ซึ่งมีภารกิจต้องพิจารณากฎหมายอีกหลายฉบับ คงไม่สามารถนัดประชุมรัฐสภาในวันดังกล่าวได้

ทั้งนี้ หากที่สุดแล้ว รัฐสภาไม่สามารถพิจารณาได้เสร็จภายในกรอบ 180 วัน คือ ภายในวันที่ 15 สิงหาคม ก็จะ ทำให้สูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แบบหาร 500 จะต้องแท้งไป และกลับมาเป็นสูตรหาร 100 ตามร่างของที่ กกต.เสนอมา



-ขณะที่พรรคการเมืองขนาดเล็ก ที่ต่อสู้เพื่อให้ได้สูตร 500 แถลงว่า สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร และเตรียมขอ ประธานรัฐสภา เปิดประชุมนัดพิเศษเสาร์-อาทิตย์ นี้

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ พร้อม ส.ส.พรรคเล็กได้มาร่วมกันแถลงข่าว ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่ครบกำหนด 180 วัน ยังสรุปอะไรไม่ได้ โดยในวันนี้ (11 ส.ค.) จะยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา เพื่อขอเปิดประชุมร่วมรัฐสภาเป็นกรณีพิเศษ ในวันเสาร์ที่ 13 และ วันอาทิตย์ ที่ 14 สิงหาคม

นพ.ระวี ยังฝากถึง พลเอกประวิตร ว่า ต้องพิสูจน์ว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการล่มสูตรหาร 500

ขณะที่ นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส. พรรคเพื่อชาติไทย ฝากไปถึงบิ๊กใหญ่ ในรัฐบาล ว่า การส่งสัญญาณมายังรัฐสภาแบบนี้ ทำให้หมดโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว



-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เข้าร่วมประชุมด้วย

ภายหลังการประชุมทั้งสามได้หารือกันเป็นการส่วนตัวประมาณ 20 นาที ก่อนที่นายกฯจะลงมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามเรื่องสภาล่ม นายกฯ ย้อนถามว่า "เป็นอะไรล่ม" ก่อนจะบอกว่าเป็นเรื่องของสภา ตนไม่ได้ติดตาม และยืนยันว่าส่วนตัวไม่มีปัญหาไม่ว่าจะเป็นสูตรหาร 100 หรือ 500 และย้ำว่าไม่มีปัญหากับ พล.อ.ประวิตร

ขณะที่ รศ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่าเกมสภาล่มในครั้งนี้ดูเผินๆ เหมือนเป็นเกมของเพื่อไทย แต่เชื่อว่าจริงๆแล้วเป็นการปะลองกำลังระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร เพื่อสกัดอำนาจการต่อรองของ พล.อ.ประยุทธ์



-ส่วนการเมืองนอกสภา ตอนนี้ก็เข้มข้น เมื่อวานนี้ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดกิจกรรม “ม็อบ10สิงหาประชาธิปไตยต้องไปต่อ”

เมื่อวานนี้ เป็นวันครบรอบ 2 ปี เวทีธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2563 มีการจัดกิจกรรม “10 สิงหา ประชาธิปไตยต้องไปต่อ” เริ่มตั้งแต่ 17.00 น. ที่ ลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

นอกจากการปราศรัย ภายในงาน ยังมีบูธเชิญชวนให้ผู้ชุมนุม ร่วมจับตาการพ้นสภาพของ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

โดย รุ้ง ปนัสยา แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่เคลื่อนไหวเมื่อ 2 ปีก่อน ได้เดินทางเข้าร่วมด้วย แต่ครั้งนี้ มาในฐานะมวลชน ก็ระบุว่า ดีใจที่มีคนมาสานต่อ พร้อมฝากถึงคนรุ่นใหม่ตื่นตัวทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องของผู้ใหญ่ เพราะส่งผลกับชีวิตของทุกคน

ทั้งนี้ในช่วงค่ำ ตัวแทนแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมเครือข่าย ได้อ่านแถลงการณ์ โดยประกาศหลักคิด 6 ประการ ย้ำว่า สนามการเลือกตั้งคือหลักชัยสำคัญที่สุดที่ฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องได้รับชัยชนะ และเป็นประตูบานแรกสู่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ

ซึ่งหลังอ่านแถลงการณ์จบ ก็ได้ร่วมเปิดแฟลชแสดงพลัง และชู 3 นิ้วเพื่อแสดงสัญลักษณ์ ก่อนยุติการชุมนุมในเวลา 21.19 น.

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/xpmJ03AqYIk