“ปูติน” นำทัพรัสเซีย สวนสนามฉลอง “วันแห่งชัยชนะ” ครบรอบ 80 ปี

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเป็นประธานในพิธีเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะ (Victory Day) โดยมีขบวนพาเหรด และสวนสนามแสดงแสนยานุภาพทางทหารอย่างยิ่งใหญ่ที่จัตุรัสแดงในกรุงมอสโก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดหลังรัสเซียเผชิญการโจมตีจากยูเครนหลายวันติดต่อกัน

ประธานาธิบดีปูตินกล่าวสุนทรพจน์ต่อกองทัพรัสเซีย ทหารผ่านศึก และผู้นำนานาชาติกว่า 20 คน รวมถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนว่า รัสเซียจดจำบทเรียนจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เป็นอย่างดีและประกาศว่าความจริงและความยุติธรรมจะอยู่เคียงข้างพวกเขา

นอกจากนี้ เขายังกล่าวอ้างว่าชาวรัสเซียทั้งหมดประเทศสนับสนุนการทำสงครามในยูเครนที่เขาเรียกว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ซึ่งขณะนี้ดำเนินมาเป็นปีที่ 4 แล้ว

ในงานเฉลิมฉลองครั้งนี้ มีผู้นำจากหลายประเทศเดินทางมาร่วม เช่น บราซิล, เวเนซุเอลา, เซอร์เบีย, และสโลวาเกีย ซึ่งเป็นประเทศจากสหภาพยุโรปเพียงประเทศเดียวที่มาร่วมงาน สวนทางกับท่าทีของอียูที่คัดค้านการเข้าร่วมเนื่องจากสงครามในยูเครนที่ยังคงดำเนินอยู่

หนึ่งคนที่สำคัญที่สุดที่เดินทางมาเข้าร่วมงานนี้ คือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าการปรากฏตัวของประธานาธิบดีสีถือเป็นความสำเร็จทางการทูตครั้งสำคัญของรัสเซีย โดยปูตินได้กล่าวชื่นชมประชาชนผู้กล้าหาญของจีน และมีการหารือทวิภาคีกันทั้งก่อนและหลังพิธี รวมถึงการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน

นอกจากตัวของประธานาธิบดีสีแล้ว ในพิธีครั้งนี้ยังมีทหารจากทุกเหล่าทัพของจีนเข้าร่วมพิธีสวนสนามด้วย

แม้รัสเซียจะประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวเป็นเวลา 3 วันเพื่อจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปีอันยิ่งใหญ่นี้ แต่ยูเครนกลับมองว่าเป็นเพียง “ละครฉากใหญ่ฉากหนึ่ง” เพราะยังถูกรัสเซียโจมตีนับพันครั้งตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ โดยในวันที่ 2 ของการหยุดยิง ยูเครนอ้างว่ามีการปะทะตามแนวหน้าเกือบ 200 ครั้ง นอกจากนี้ ยังถูกรัสเซียโจมตีทางอากาศ 18 ครั้ง และมีการระดมยิงจากกองทหารรัสเซียเกือบ 4,000 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม รัสเซียอ้างและยืนยันหนักแน่นว่าตัวเองปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด และกล่าวหายูเครนว่าเป็นฝ่ายละเมิดเสียเอง สถานการณ์ร้อนระอุถึงขั้นมีการยกเลิกเที่ยวบินทั่วรัสเซียส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารมากกว่า 60,000 คน

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนได้ออกมาเตือนถึงความไม่ปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงาน เรียกร้องให้ผู้นำชาติต่าง ๆ ระงับการเดินทางไปยังมอสโก

ผู้นำยูเครนยังคงเน้นย้ำจุดยืนเดิม เรียกร้องให้มีการหยุดยิงที่ “แท้จริง” โดยปราศจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธหรือโดรน พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัสเซียพิสูจน์ความจริงใจในการยุติสงคราม และเสนอให้มีการหยุดยิงที่ยาวนานขึ้นอย่างน้อย 30 วัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรในยุโรปและสหรัฐอเมริกา