‘เอ๊ะ จิรากร’ เผยโดนต่อยหูได้ยินลดลง ลั่นไม่ยอมความ สร้างบรรทัดฐานความปลอดภัยศิลปิน

‘เอ๊ะ จิรากร’ เผยโดนต่อย ทำให้หูซ้ายได้ยินลดลง รับกลัวคิดถึงลูกเมีย ลั่นไม่ยอมความ อยากสร้างความปลอดภัยให้ศิลปิน

กรณีของนักร้องชื่อดัง เอ๊ะ จิรากร ในวัย 45 ปี ที่ถูกชายหนุ่มบุกขึ้นไปทำร้ายร่างกายด้วยการชกหน้า ขณะร้องเพลงอยู่บนเวที ที่ Walkin 88 ย่านคลองสาม จ.ปทุมธานี เมื่อคืนวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา

ซึ่งเมื่อวานนี้ เอ๊ะ จิรากร พร้อมด้วย กัน จอมพลัง ได้เปิดใจในรายการโหนกระแส และได้ออกมาเผิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่มารอทำข่าวกันจำนวนมาก โดย เอ๊ะ ก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด บอกว่าในคอนเสิร์ตวันนั้นระหว่างที่ตนร้องเพลงอยู่บนเวที เห็นคู่กรณีเดินมาที่หน้าเวที ถือแก้วเหล้าช็อตมาให้ตนดื่ม จากนั้นเขาเดินกลับไป ผ่านไป 15 นาที คู่กรณีเดินย้อนกลับมาหน้าเวทีอีกรอบ มือซ้ายถือโทรศัพท์ มือขวาถือแก้ว เหมือนเอาอะไรมาให้ดู ตนโน้มตัวใช้โอบไหล่คู่กรณีถามว่า “พี่มีอะไร”

จากนั้นคู่กรณีก้าวขึ้นมาบนเวที การ์ดซึ่งยืนอยู่ข้างล่างจึงเดินไปจับตัวเหมือนจะดึงลงมา คู่กรณีจึงใช้มือผลักการ์ดแล้วหันมาใส่ตน ถ้าจะแย่งไมค์ต้องมาที่มือของตน เขาไม่ได้จับไมค์ แต่คู่กรณีใช้มือซัดใส่หัวของตนบริเวณหูซ้าย 1 ครั้ง มีรอยแดงเพราะโดนกระแทก

ตนไม่รู้ว่าชกหรือตบ แต่ไม่ใช่การสะบัด มันคือการกระแทกด้วยอะไรสักอย่าง หลังโดนทำร้าย ตนเซกระเด็นเดินถอยไป 2-3 ก้าว ก้มหน้าอยู่จึงมองไม่เห็น ในคลิปตัวคู่กรณียืนบังอยู่

เอ๊ะ จิรากร เผยต่อว่า พอคู่กรณีใส่ตนปุ๊บ มีชายใส่เสื้อสีเทา คาดว่าเป็นเพื่อนของคู่กรณีดิ่งมาหาตน โดยทีมงานได้ชี้หน้าชายคนนี้ว่า “เฮ้ย! อะไร” ก่อนที่การ์ดของร้านจะเข้ามาระงับเหตุ ยอมรับว่าตลอดการแสดงตนไม่ได้พูดจาอะไรไม่ดี งงมันเกิดจากอะไร

หลังเกิดเหตุตนผวาไม่ได้กลับบ้าน รอเคลียร์ว่าคู่กรณีเป็นใคร เพราะหลังเกิดเหตุการ์ดได้นำตัวคู่กรณีออกไปนอกร้านคู่กรณีทำทีหาอะไรบางอย่างในรถ การ์ดก็รีบเข้ามาในร้าน จากนั้นคู่กรณีกับพวกขับรถออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว

ยอมรับตนเองกลัว รีบเข้าไปรอที่ห้องพักศิลปิน และคุยกับทีมงานว่าต้องเปลี่ยนรถอีกคันมารับ ฃกลับบ้านของน้องซึ่งเป็นเซฟเฮ้าท์ ยังไม่กล้ากลับบ้านเพื่อความปลอดภัย ซึ่งวันต่อมาตนยังเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตที่ จ.เชียงราย ด้วยความหวาดระแวง

“เอาเรื่องถึงที่สุด แบบนี้มันเกิดบ่อยแล้ว ไหว้สวยรวยกระเช้า ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรควรจะให้เกียรติกัน การดูหมิ่นถูกเหยียดหยามแบบนี้มันเกิดกับศิลปิน คนทำดนตรี ตอนนี้ศิลปินโดนเยอะมาก เหมือนเป็นแฟชั่น โลกมันบิดเบี้ยว คนทำผิดกลายเป็นเน็ตไอดอล มันต้องปฏิรูปมั้ย มาตรฐานมันต้องเป็นแบบไหน สุดท้ายมันอยู่ที่พื้นฐานจิตใจของคนในการให้เกียรติกันและกัน ถ้าคุณชื่นชอบศิลปินก็ควรให้เกียรติเขา”

เอ๊ะ จิรากร บอกว่าตนรับรู้ว่าคู่กรณีขอโทษแล้ว แต่จริงๆ แล้วตนรู้สึกว่ามันไม่ควรมีเคสแบบนี้อีก เขามีสติแล้วรำลึกได้ว่าสำนึกผิด แต่ตอนก่อเหตุเขาไม่มีสติจะมารำลึกสำนึกผิดได้อย่างไร นี่เป็นครั้งแรกที่เล่นคอนเสิร์ต แล้วโดนทำร้ายร่างกาย ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักและมีปัญหากับคู่กรณีมาก่อน ส่วนที่คู่กรณีเข้าไปมอบตัว อ้างว่ามาแย่งไมค์เพื่อประกาศตามหาแฟน ตนรู้สึกงงว่าเกี่ยวข้องอะไรกับแฟน เพราะมาที่ร้านยังไม่ถึง 30 นาที ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

เบื้องต้นผลตรวจร่างกายจากโรงพยาบาล พบว่ามีเสียงในหูข้างซ้าย ระดับการได้ยินลดลงกว่าเดิม ถ้าคู่กรณีมาขอโทษ ตนจะรับทราบเอาไว้ แต่ยืนยันว่า จะไม่เจรจา และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง อยากให้กรณีแบบนี้สร้างมาตรฐานความปลอดภัยให้ศิลปิน

เอ๊ะ จิรากร บอกว่า ตนกังวลยังระแวง ช่วงนี้ขอเซฟตัวเองก่อนเพราะไม่รู้ว่าจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ขอให้ร้านต่าง ๆ มีมาตรการดูแลศิลปิน ควรดูเขาเพราะเขามาสร้างความสนุกให้กับทางร้านและลูกค้า หลังจากนี้เวลาเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหน ก่อนถึงเวลาเล่นจะรออยู่บนรถตู้ก่อน พอเล่นคอนเสิร์ตเสร็จจะรีบขึ้นรถตู้กลับทันที เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

จากนั้นเวลา 15.00 น. เอ๊ะ จิรากร เดินทางไปแจ้งความที่ สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี ข้อหาทำร้ายร่างกาย เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุที่เกี่ยวข้องทุกคน อย่างไรก็ตามหลังสอบปากคำเสร็จแล้ว เอ๊ะ จิรากร บอกว่ารู้สึกสบายใจขึ้น ก่อนจะเดินทางไปขึ้นเครื่องบินในเวลา19.00 น. เพื่อไปเล่นคอนเสิร์ตต่อที่สมุย จ.สุราษฎร์ธานี  

ด้าน พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผู้กำกับการ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะต้องสอบปากคำ คุณเอ๊ะ ในฐานะผู้เสียหาย ซึ่งได้นำหลักฐานการตรวจร่างกาย มาเแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุในข้อหาทำร้ายร่างกาย หลังสอบปากคำเสร็จ จะออกหมายเรียกให้คู่กรณี มารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนต่อไป

ด้าน กัน จอมหลัง พา เอ๊ะ จิรากร ไปแจ้งความ เปิดเผยว่า ตั้งข้อสงสัยไว้ว่าคู่กรณี มีความแค้นส่วนตัว หรือมีปัญหากับทางร้านหรือไม่ อยากดังหรือไม่ ถ้าคู่กรณีมาขอโทษพี่เอ๊ะจะรับทราบไว้ ไม่ได้ใจร้าย แต่ถ้าขอโทษแล้วจบ จะเป็นตัวอย่างให้คนอื่นทำตาม อยากทำให้เป็นบรรทัดฐาน คนก่อเหตุต้องรับผิดชอบ พี่เอ๊ะมาสร้างความสนุกสนาน ไม่ใช่มาขายเรือนร่าง ให้คนอื่นมาทำร้ายแบบนี้ ตอนนี้ทราบชื่อผู้ก่อเหตุทุกคนแล้ว

“ถ้าคู่กรณีมั่นใจว่ามี ผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ ใครที่เป็นเจ้าของปลอกคออยู่ คิดให้ดีว่าลูกน้องมาทำแบบนี้ถูกต้องหรือไม่ ถ้าคิดว่าทำถูกต้องแล้ว อยากจะช่วยให้ออกมาเลย อยากฝากถึงคู่กรณีว่า อย่าห้าวเพราะคนห้าวกินข้าวผ่านธูป”

ทีมข่าวสอบถามไปยังนายธนวัฒน์ หรือยีนส์ (ผู้ก่อเหตุ) อีกครั้งเจ้าตัวบอกเหนื่อยไม่อยากให้สัมภาษณ์แล้ว แต่ให้ข้อมูลยอมรับว่าวันเกิดเหตุเมามาก เมาตั้งแต่อยู่ที่บ้านแล้ว เพราะดื่มเหล้าไปตั้งแต่หัววัน ดื่มไปเรื่อย ๆ จากนั้นก็ไปที่ร้านเกิดเหตุกับเพื่อน ตนตั้งใจรอจังหวะให้มีคอนเสิร์ตจึงขึ้นไปบนเวที เพื่อประกาศหาแฟน จะบอกว่ารักแฟนแค่ไหน

เพื่อนรู้หมดว่าตนเองเป็นอย่างไรเวลาเมา ปกติหากตนมีเรื่องในใจก็จะเป็นแบบนี้ ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าพูดอะไรกับ เอ๊ะ จิรากร แต่ในใจเจตนาอย่างเดียว คือจะขอไมค์ ซึ่งตนไม่ถามจากพนักงานในร้าน เพราะรู้ว่าพนักงานคงไม่บอกเนื่องจากพวกเขาไม่ชอบตนเอง เพราะตนเคยไปอาละวาดที่ร้านมาแล้ว

ส่วนผู้ชายคนที่เดินตามไปบนเวที หลังจากที่ต่อย เอ๊ะ จิรากร นั้นคือรุ่นพี่ของตนที่มาด้วยกัน โตมาด้วยกัน ถ้าตนทำอะไรเขาก็จะทำด้วย ยืนยันว่า ไม่มีการวางแผนไปทำร้าย เอ๊ะ จิรากร และไม่ได้ทำตามเทรนในโซเชียลที่นักร้องถูกทำร้ายบ่อย ๆ และตนไม่มีอาวุธแน่นอน

กรณีที่มีคนสงสัยว่าตนเองเป็นเด็กถิ่นปทุมธานี มีผู้ใหญ่ดูแลนั้นไม่เป็นความจริง ตนเป็นเพียงแค่คนบ้านๆ เท่านั้นสุดท้ายอยากขอโทษ เอ๊ะ จิรากร และแฟนคลับ ตนสัญญาจะเลิกเหล้าตลอดชีวิต เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียน