อาชญากรรม

แม่ร้อง ลูกถูกทำร้าย พ่อแม่คู่กรณียกพวกทำร้าย ซ้ำไม่รับผิดชอบ

โดย kanyapak_w

28 ก.ค. 2566

511 views

เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 6 โพสต์คลิปเหตุการณ์กลุ่มคนประมาณ 6-7 คน พากันวิ่งกรูเข้าไปรุมทำร้ายชายคนหนึ่ง ภายในสนามฟุตซอล บ้านพักสวัสดิการกองทัพบก สามเสน โดยผู้ร้องเรียนระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่ลูกชายวัย 19 ปี ถูกรุมทำร้ายร่างกาย แต่คดีไม่คืบหน้า และคู่กรณีซึ่งเป็นบุคลากรของโรงพยาบาลชื่อดัง บ่ายเบี่ยงไม่ชดใช้ค่าเสียหาย


คุณแม่ของวัยรุ่นที่ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในคลิป เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 66 เวลาประมาณ 17.00 น. ลูกชายได้มาเล่นฟุตบอลที่สนามในเขตที่พัก ซึ่งลูกชายจะมาเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ในวันนั้น ได้เจอคู่กรณี ซึ่งเป็นเด็กชายอายุประมาณ 13-14 ปี อาศัยอยู่ที่อื่นแต่เข้ามาใช้สนามฟุตซอลที่นี่ และเข้ามาขอเล่นกับลูกชาย แต่พอเล่นกันไป ก็มีปากเสียงกระทบกระทั่งกันตามประสาวัยรุ่น มีการลงไม้ลงมือกันเล็กน้อย แต่ไม่มีใครเป็นอะไร ลูกชายก็เข้าใจว่าเรื่องจบ คู่กรณีก็กลับบ้านไป


จนผ่านไปครึ่งชั่วโมง ปรากฏว่า คู่กรณีได้ไปตามพ่อกับแม่ ซึ่งเป็นบุคลากรของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง และพรรคพวกอีกรวม 7 คน ขี่จักรยานยนต์พากันมา ตอนแรกพกมีดมาด้วย แต่พอมีคนทักเลยเก็บมีดเข้าใต้เบาะรถ พอมาถึงก็ไม่ถามอะไร ปรี่เข้าไปทำร้ายรุมต่อยลูกชายตนทันที จนลูกชายฟกช้ำตามร่างกาย มีแผลเลือดออกที่ศีรษะ และใบหน้า อีกทั้งกลุ่มผู้ก่อเหตุยังพยายามล็อกตัวลูกชายตนไว้ไม่ให้หนี ลูกชายจะกลับบ้านก็กลับไม่ได้ จนมีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ จึงไปตามตนมา


หลังเกิดเหตุ ได้มีการไปแจ้งความที่ สน.พญาไท ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายกับทั้ง 7 คนแล้ว และมีการตกลงไกล่เกลี่ยกัน โดยคู่กรณีขอโอกาสให้ได้ทำงานต่อ เพราะมีภาระต้องรับผิดชอบ ตนจึงเรียกค่าเสียหาย 3 แสนบาท สุดท้ายมีการต่อรองกันเหลือ 5 หมื่นบาท แต่จนถึงตอนนี้คู่กรณีก็ยังไม่ได้จ่ายเงินตามที่ตกลงกันไว้


โดยตนได้มีการไปคุยกับผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนที่อีกฝ่ายทำงานอยู่ ก็ส่งคนมาคุยด้วยดี บอกว่าจะช่วยดูแล รับผิดชอบทุกอย่าง ขอความเมตตาให้กับเจ้าหน้าที่ และขอเวลา 5 วัน แต่พอครบกำหนดก็เงียบไป พอทวงถามก็ผัดผ่อน ท้ายสุดบอกว่า เป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับทางโรงพยาบาล ตนจึงรู้สึกไม่ดี ว่าหากจะไม่รับผิดชอบแล้วจะมาประวิงเวลาทำไม


ตนเสียเวลาไปกว่า 1 เดือนโดยไม่ได้อะไรเลย เพราะด้านคดีความ ตำรวจก็ยังไม่ได้ส่งฟ้องต่ออัยการเนื่องจากยังรอการไกล่เกลี่ย ตอนนี้ตนจึงกังวลว่า คดีจะไม่คืบหน้า เพราะคู่กรณีก็ยังบ่ายเบี่ยงไม่ชดใช้ค่าเสียหายตามที่ตกลงกัน


สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ครอบครัวตนต้องอยู่อย่างหวาดระแวง ลูกชายแม้อาการจะดีขึ้นแล้วแต่ก็ไม่กล้าออกไปไหน อีกทั้งฝ่ายคู่กรณี ยังส่งคนมาวนเวียน มาเคาะประตูห้อง บอกจะขอเคลียร์ แต่ก็ไม่จ่ายเงินให้ ซึ่งตนรู้สึกว่าถูกคุกคามมากกว่า โดยตนอยากฝากถึงคู่กรณีว่า จะทำอะไรให้คิดก่อน นึกถึงใจเขาใจเรา อย่าตัดสินใจโดยพลการ ถ้าเห็นอะไรไม่สมควร ก็ใช้กฎหมายไม่ใช่กฎหมู่ อย่างไรก็ตาม หากมารับผิดชอบตามที่คุยกันไว้ ตนจะไม่เอาเรื่อง แต่ถ้าไม่ทำ ก็คงต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

คุณอาจสนใจ