รวบแก๊งตำรวจ-ทหารเก๊ แสดงหมายปลอม หลอกกรรโชกทรัพย์กว่า 3 ล้านบาท

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2566 มีชาย 4 คนแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. และตำรวจกองปราบปราม เข้าทำการขอตรวจค้นบ้านที่เกิดเหตุ และแจ้งว่าผู้เสียหายเป็นผู้กระทำความผิดฐานยักยอก พร้อมแสดงหมายหมายปลอม ร่วมกันกรรโชกเงินจากผู้เสียหายเป็นจำนวนเงิน 3,100,000 บาท เพราะเนื่องจากภายในบ้านมีผู้หญิงและเด็ก ผู้เสียหายจึงยินยอมมอบเงินดังกล่าวไป และได้มาแจ้งความต่อ สน.หัวหมาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ รู้แหล่งกบดานว่าหนึ่งในผู้ต้องหา ว่าไปหลบซ่อนอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งใน จ.สงขลา จึงนำกำลังเข้าไปจับกุม ทราบชื่อต่อมา คือ นายยะฝาด  อายุ 59 ปี จึงสอบสวนเพิ่มเติม ทำให้สามารถจับผู้ต้องที่เหลืออีก 2 คนได้ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น ฯ”  พร้อมด้วยของกลาง รวม 25 รายการ 

ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาาพโดยพฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 66 ขณะที่ผู้เสียหายได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักที่เกิดเหตุ ได้มีชายจำนวน 4 คน แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. และเจ้าหน้าตำรวจกองปราบ มาขอทำการตรวจค้นบ้านหลังที่เกิดเหตุ และได้แจ้งแก่ผู้เสียหายว่าได้กระทำความผิดฐาน ยักยอก ต่อมาได้เรียกรับเงินจากผู้เสียหายเป็นจำนวนเงิน 3,100,000 บาท หลังจากนั้นได้หลบหนีไป

          และต่อมาวันที่ 13 เม.ย. 66 ผู้เสียหายได้มาพบพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก และให้การยืนยันว่ากลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ เป็นยานพาหนะ มาที่บ้านและได้ร่วมกันแสดงหมายค้นปลอมขอเข้าบ้าน และร่วมกันกรรโชกทรัพย์สินขณะก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายไม่ได้ใช้อาวุธในการข่มขู่ผู้เสียหายแต่อย่างใด แต่ผู้เสียหายเกรงว่าจะได้รับอันตรายแก่ตน เพราะในบ้านมีภรรยา ลูก และแม่บ้าน จึงได้มอบเงินให้กับกลุ่มคนร้ายไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่นิ่งนอนใจจึงทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อตามหาผู้กระทำความผิด

        จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ร่วมกันก่อเหตุและทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมของกลางได้

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “กลุ่มมิจฉาชีพได้มีการหาช่องทางและกลอุบายในการกระทำความผิดโดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และเกิดความเสียหายต่อหน่วยงานราชการที่ถูกแอบอ้าง จะไม่ปล่อยให้คนกระทำความผิดลอยนวล และ พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ สืบสวนนครบาลประสานงาน กองปราบปราม เร่งรัดดำเนินการขยายผลต่อไป เพราะเชื่อว่าน่าจะมีประชาชนตกเป็นเหยื่ออีก”