อาชญากรรม

สุดโหด! ชายติดยากระหน่ำฟัน-บั่นศีรษะอาแท้ ๆ ดับสลด ก่อนนำทิ้งบ่อทราย

โดย paranee_s

27 มี.ค. 2566

621 views

วันที่ 27 มี.ค. 66 ที่ จ.สงขลา เกิดเหตุหลาน ซึ่งติดยาใช้มีดฆ่าตัดหัวอา หิ้วใส่ถุงนำไปทิ้งในบ่อทรายอย่างโหดเหี้ยม อ้างแค้นเรื่องส่วนตัว โดยเหตุการณ์นี้เกิดเมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ ซึ่งทาง ร.ต.อ.จรูญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา รับแจ้งว่า เกิดเหตุฆ่ากันตายที่หลังบ้านหนึ่ง หมู่ 1 บ้านหนองจอก ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ


หลังจากลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ สุวรรณนพมาศ ผกก.สภ.รัตภูมิ รวมทั้งตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 หน่วยกู้ภัยรัตภูมิ นางวิไลลักษณ์ เรืองผล นายอำเภอรัตภูมิ และ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภาค 9


พบศพ นายวาสนา อายุ 52 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “วาดหนา” เป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านหนองจอก สภาพศพนอนตะแคงข้าง และศีรษะถูกตัดขาดหายไปเหลือแต่ลำตัว และมีบาดแผลถูกฟันเป็นแผลเหวอะหวะเข้าที่ข้อมือขวา และหัวไหล่ซ้าย ไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงยีนส์ขาสั้น และผ้าขาวม้าคาดเอว


โดยนอนตายอยู่หลังบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบศีรษะในที่เกิดเหตุ โดยคนร้ายได้ตัดศีรษะ และหิ้วปีนข้ามกำแพงหลังบ้านไปด้วย โดยบนกำแพงยังมีรอยเลือดติดอยู่ ซึ่งคาดว่า น่าจะนำศีรษะไปวางไว้ขณะที่ปีนข้ามกำแพง นอกจากนี้ภายในบ้าน ซึ่งเป็นร้านค้าที่อยู่ติดกับหลังบ้านที่พบศพ ยังพบคราบเลือดไหลย้อยเป็นทาง ตั้งแต่หน้าร้านไปจนถึงในครัวหลังร้าน ซึ่งมีกองเลือดกองใหญ่ และเป็นจุดที่คนร้ายลงมือฆ่า ก่อนที่จะลากศพไปตัดหัวที่หลังบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน


นอกจากนี้ตั้งแต่บ้านที่พบศพไปจนถึงบ้านผู้ตายที่อยู่ห่างออกไปราว 50 เมตร ก็พบเลือดไหลย้อยเป็นทาง รวมถึงภายในบ้านของผู้ตาย ทั้งหน้าบ้าน และในห้องนอน ก็เต็มไปด้วยรอยเลือด


จากการสอบสวนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายเกียรติศักดิ์ อายุ 36 ปี หรือ เอก หรือบางคนเรียกว่า บูด ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายแท้ ๆ ของผู้ตาย และมีบ้านอยู่ใกล้ ๆ กันด้วย


โดยตำรวจได้ตามไปจับตัวได้ที่บ้านพักที่อยู่ใกล้กับบ้านของผู้ตาย ซึ่งยอมเดินออกมามอบตัวแต่โดยดี โดยไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด พร้อมอาวุธมีดคล้ายมีดสปาตายาวประมาณ 30 เซนติเมตร ที่ใช้ก่อเหตุ และยอมรับว่า เป็นคนฆ่าตัดหัว นายวาสนา ซึ่งเป็นอาแท้ ๆ ของตัวเอง ส่วนศีรษะได้ตัด และนำใส่ถุงพลาสติกเดินลัดเลาะเนินเขาที่เป็นป่าสวนยางหลังบ้านนำไปโยนทิ้งในบ่อทรายห่างจากจุดเกิดเหตุราว 500 เมตร


ตำรวจจึงได้ไปคุมตัว นายเกียรติศักดิ์ ไปตรวจจุดที่นำศีรษะไปทิ้งในบ่อทราย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 3 บ้านนาลึก ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ และจากการสอบถามคนงานบ่อทรายก็ยืนยันว่าเห็น นายเกียรติศักดิ์ เกาะขอนไม้ว่ายน้ำลงไปกลางบ่อทรายจริง และเมื่อถามว่าลงไปทำอะไรก็ตอบว่า ไปออกกำลังกาย ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเพิ่งก่อเหตุฆ่าตัดคอมา จึงไม่ได้สนใจอะไร โดยเห็น นายเกียรติศักดิ์ ว่ายน้ำไปจนถึงกลางบ่อทราย และว่ายกลับเข้าฝั่ง


จากนั้นตำรวจได้ประสานชุดประดาน้ำของหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊งหาดใหญ่) มาดำน้ำค้นหาศีรษะในบ่อทราย ซึ่งมีความลึกประมาณ 7-8 เมตร ตรงจุดที่ นายเกียรติศักดิ์ บอกว่า นำศีรษะไปทิ้ง แต่หลังจากที่ดำน้ำค้นหานานหลายชั่วโมง ก็ยังไม่พบ


ขณะที่จากการสอบสวน นายเกียรติศักดิ์ ถึงสาเหตุที่ฆ่าตัดหัวอาแท้ ๆ ของตัวเอง เบื้องต้นอ้างว่า มีเรื่องโกรธแค้นเป็นการส่วนตัวกับอา ที่เคยไปทำร้ายพ่อ และถูกอาใส่ร้ายว่า ไปขโมยทีวี แต่เป็นเพียงคำให้การในเบื้องต้นเท่านั้น ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะสภาพของนายเกียรติศักดิ์ ไม่อยู่กับร่องกับรอย และมีประวัติติดยาเสพติดอย่างหนักด้วย


และการสอบถามญาติใกล้ชิด และชาวบ้าน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สาเหตุน่าจะมาจากอาการหลอนยา แล้วคิดไปเอง เพราะปัจจุบันมีเพียง นายวาสนา ซึ่งเป็นอาคนเดียวที่คอยช่วยเหลือให้ข้าว ให้น้ำกิน ให้เงินใช้ และมีบ้านอยู่ใกล้ ๆ กัน แต่ก็มักจะพูดเตือนบ้าง โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด และเรื่องงาน


ด้านตำรวจ ลำดับเหตุการณ์จากการสอบสวนพยานแวดล้อม และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า เหตุเกิดตอนประมาณ 08.00 น. โดย นายเกียรติศักดิ์ หรือ เอก ซึ่งตอนนั้นอยู่ภายในบ้าน และได้ยินเสียงคล้ายกับเสียงลับมีด ก่อนที่จะตะโกนเรียกชื่อคนตายว่า “วาดหนา” ซึ่งเป็นชื่ออา และเดินถือมีดไปยังบ้านอา ที่อยู่ห่างออกไปราว 50 เมตร ซึ่งอา ก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้คนเดียว เพราะแยกทางกับภรรยาไปนานแล้ว และมุ่งตรงไปในห้องนอนของอา ที่กำลังนอนอยู่ในห้อง และใช้มีดกระหน่ำฟัน


จากนั้น นายวาสนา จึงพยายามวิ่งหนีตายออกจากบ้านในสภาพที่ร่างโชกเลือดไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านที่เปิดร้านค้า แต่ก็ไม่มีใครช่วยทัน และกลัว เพราะเห็นนายเกียรติศักดิ์ หลานชายวิ่งตามหลังมาพร้อมกับมีด


ต่อมานายวาสนา ก็วิ่งหนีเข้าไปหลังร้านค้า โดยมีนายเกียรติศักดิ์ ถือมีดตามเข้าไป และได้ยินเสียงทั้ง 2 คน ต่อสู้กัน พร้อมกับเสียงร้องของนายวาสนา ด้วยความเจ็บปวดเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลง ซึ่งคาดว่านายวาสนา น่าจะถูกฟัน และเจ็บหนักจึงแน่นิ่งไป และถูกนายเกียรติศักดิ์ ลากไปหลังบ้านใช้มีดตัดศีรษะอย่างโหดเหี้ยม


จากนั้นก็หิ้วศีรษะข้ามกำแพงสูงราว 2 เมตร ซึ่งบนกำแพงก็ยังมีคราบเลือดติดอยู่ด้วย โดยนำศีรษะใส่ถุงพลาสติกเดินลัดเลาะป่วนสวนยาง ซึ่งเป็นเนินเขา แล้วนำศีรษะว่ายน้ำไปทิ้งในบ่อทราย ก่อนที่จะเดินวนกลับมาที่บ้านอาบน้ำ และนอนพักเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และตำรวจตามมาจับกุมได้ที่บ้านดังกล่าว


ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายเฉิม อายุ 77 ปี เพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นเจ้าของร้านที่ นายวาสนา ผู้ตายวิ่งมาขอความช่วยเหลือ เล่าว่า ตอนนั้นยืนอยู่หน้าร้านก็เห็นนายวาสนา วิ่งร่างโชกเลือดมาขอความช่วยเหลือ โดยมีนายเกียรติศักดิ์ หลานชายวิ่งถือมีดตามมา


ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่ากลัว ต้องรีบถอย เพราะไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง และในบ้านก็มีภรรยาที่ป่วยนอนอยู่ด้วย และทั้งคู่ก็วิ่งตามกันเข้าไปในครัวหลังร้าน และได้ยินเสียงดังโครมคราม และเงียบไป สักพักตนก็เข้าไปดูก็เหตุกองเลือดในครัวเต็มไปหมด และมีร่างของนายวาสนา ถูกฆ่าตัดศีรษะนอนอยู่ในสวนหลังบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าทั้ง 2 คน มีเรื่องอะไรกัน


ด้าน นางถนอม อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นญาติของผู้ตายบอกว่า ไม่รู้ว่าทั้ง 2 คน อาหลานมีเรื่องอะไรกัน เพราะปกติหลานชายก็มาขอข้าวขอเงินจากอาเป็นประจำ โดยหลานชายปกติจะอยู่กับยาย 2 คน ที่บ้าน แต่ยอมรับว่าหลานติดยา ส่วนสาเหตุนั้นไม่ทราบจริงว่า มาจากเรื่องใด


นอกจากนี้จากการสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ก่อนหน้านี้ย้อนหลังไปราว 5 ปี นายเกียรติศักดิ์ หรือ เอก เป็นคนดีมาก เคยเป็นผู้รับเหมาทำโครงสร้างหลังคา มีลูกน้องนับสิบคน และมีภรรยา มีลูก 1 คน มีรถยนต์กระบะ 2 คัน


แต่ตอนหลังได้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จนงานการเริ่มลดน้อยลง สุดท้ายก็ต้องเลิกอาชีพรับเหมา และย้ายไปอยู่กับภรรยาที่ จ.มหาสารคาม ได้ราว 3 ปี ก่อนที่จะแยกทางกัน และกลับมาอยู่ที่บ้านไม่นาน ซึ่งพักหลังชีวิตยิ่งจม เพราะเล่นยาหนัก และไม่มีงานทำ และอยู่กับยาย อายุ 91 ปี ที่บ้านกันสองคน



โดยมี นายวาสนา ซึ่งเป็นอา ที่มีบ้านอยู่ใกล้กันคอยช่วยเหลือเรื่องกินอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงโกรธถึงขั้นฆ่าตัดหัวอาของตัวเองอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ