อาชญากรรม
พ่อแม่ 'หมอกระต่าย' ชี้ผลตัดสินไม่ผิดจากที่คาด หลังศาลสั่งจำคุก ส.ต.ต.ซิ่งบิ๊กไบค์ 1 ปี 15 วัน
โดย thichaphat_d
26 เม.ย. 2565
55 views
วานนี้ (25 เม.ย. 65) จากกรณี ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ. 399/2565 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผู้บังคับหมู่กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) เป็นจำเลย กรณีขี่รถจักรยายนต์บิ๊กไบก์ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ “หมอกระต่าย” แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสียชีวิต ขณะเดินข้ามทางม้าลาย
โดย ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาสั่งจำคุก ส.ต.ต.นรวิชญ์ 1 ปี 15 วัน และปรับ 4,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา และมีคำสั่งให้ริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงมาก ประมาณช่วงระหว่างความเร็ว 108-128 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและที่วิญญูชนทั่วไปคาดคิด
ทั้งยังขับแซงรถคันอื่นใกล้กับบริเวณที่มีเครื่องหมายจราจรทางข้าม (ทางม้าลาย) ในบริเวณที่อยู่ใกล้กับสถานพยาบาลและสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นเขตเมืองและเป็นเขตชุมชนที่มีประชาชนจำนวนมากไปรับบริการและใช้ทางดังกล่าวเป็นปกติตลอดทั้งวัน
อันเป็นการเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถและผู้สัญจรอื่นๆ บนท้องถนน ประกอบกับจำเลยขับรถที่ยังไม่ได้เสียภาษีประจำปี ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้และไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายกับผู้ประสบภัยจากรถ
แม้จำเลยจะพยายามบรรเทาผลร้ายแล้ว แต่พฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดของจำเลยดังกล่าว ถือว่าร้ายแรง จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษจำเลย
ภายหลังศาลอาญา มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกและปรับจำเลยแล้ว ต่อมาบิดา และผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก จำเลย ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ โดยใช้ตำแหน่งราชการเป็นหลักทรัพย์ โดยศาลอาญาพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ พร้อมตีราคาประกัน 200,000 บาท
ขณะที่นาย ณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความครอบครัวของหมอกระต่าย ที่เปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาจบว่า ได้แจ้งคำพิพากษาต่อครอบครัวของหมอกระต่ายแล้ว แต่ยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียดว่าครอบครัวจะรู้สึกอย่างไร
ซึ่งฝ่ายจำเลยเตรียมยื่นอุทธรณ์ ก็พร้อมต่อสู้คดี และจะต้องเอาผลคำพิพากษาของศาลอาญาไปยื่นต่อศาลแพ่งด้วยในการเรียกค่าเสียหายจากสิบตำรวจตรี นรวิชญ์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด เป็นเงิน 72 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย รวมเป็นเงินกว่า 100 ล้านบาท
ซึ่งทั้งสิบตำรวจตรี นรวิชญ์ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ขอขยายเวลาการยื่นคำให้การ ศาลจึงนัดพร้อมคดีในวันที่ 8 สิงหาคมนี้
ทั้งนี้ หลังจากฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้น ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก มีสีหน้าเคร่งเครียด ไม่ตอบคำถามนักข่าว และขึ้นรถที่จอดอยู่หลังศาลออกไป ขณะที่ทางด้านทนายความของนรวิชญ์ บอกว่า เจ้าตัวก็ยังเสียใจ ถึงได้รับสารภาพตั้งแต่ชั้นกระบวน ชั้นอัยการ และชั้นศาล
นพ.อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล กับ นางรัชนี สุภวัตรจริยากุล พ่อและแม่ของ “หมอกระต่าย” ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ หลังศาลอาญาพิพากษา จำคุก ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก คดีขับขี่ดูคาติชน ‘หมอกระตาย’ บนทางม้าลาย จนเสียชีวิต 1 ปี 15 วัน และปรับ 4,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา
โดยครอบครัวย้ำว่า เคารพการตัดสินของศาล แต่คิดอยู่แล้วว่าผลการตัดสินจะออกมาในรูปแบบนี้ ไม่ได้ผิดไปจากที่คิดไว้ตอนแรก แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ไม่ได้หมายถึงว่าครอบครัวพอใจ และยังคาดหวังว่าโทษต้องหนักกว่านี้ โดยให้เหตุผลว่าเพราะคู่กรณีเป็นตำรวจ ไม่ปฎิบัติตามกฎหมายจราจร นอกจากนี้ยังเติบโตในครอบครัวที่เป็นตำรวจด้วย ซึ่งหากหลังจากนี้ หากจำเลยยื่นอุทธรณ์แล้วมีการลดโทษอีก ครอบครัวจะผิดหวังมาก
ด้านนางรัชนี สุภวัตรจริยากุล แม่ของหมอกระต่าย เปิดเผยว่า ยังไม่หมดหวังกับกระบวนการยุติธรรม และยังคาดหวังว่า ส.ต.ต.นรวิชญ์ จะได้รับโทษที่หนักขึ้น พร้อมย้ำว่า เหตุการณ์นี้จะเป็นกรณีศึกษา ที่คนจะออกมาเรียกร้องความถูกต้อง และให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายที่ไม่มีสิทธิ์จะพูดได้ และจะเป็นกรณีตัวอย่างที่จะนำไปสู่การปฎิรูปตำรวจด้วย
ด้าน อาจารย์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ ประจำสำนักอัยการสูงสุด อธิบายสื่อเนื่องจากกรณี “ส.ต.ต.นรวิชญ์” ขี่บิ๊กไบค์ชนหมอกระต่าย นั้นหลักการพิจารณาโทษ ในคดีความผิดเกี่ยวกับประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จะพิจารณาจาก ”เจตนา” ของผู้ก่อเหตุเป็นหลัก ไม่ได้มีการนำเรื่องการที่เป็นเจ้าพนักงานมาร่วมพิจารณา
แต่ในทางกลับกัน หากผู้ก่อเหตุ มีเจตนาร้าย หรือตั้งใจ และยังเป็นเจ้าพนักงานด้วย ก็จะถูกนำเรื่องดังกล่าวมีประกอบกาพิจารณาอัตราโทษด้วย ซึ่งก็จะมีโทษหนักกว่าปกติ
ทั้งนี้ ปกติอัตราโทษสูงสุดของคดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อัตราโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 10 ปี แต่โดยทั่วไป เมื่อศาลพิพากษา ก็จะถูกพิจารณาโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี โดยจะขึ้นอยู่กับชนิดของรถ ขนาดของรถ และความรับผิดชอบ
เช่น หากเป็นรถบรรทุก รถโดยสาร อัตราโทษก็จะหนักกว่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยอาจารย์ปรเมศวร์อธิบายว่า รถขนาดใหญ่ หรือรถโดยสาร ต้องรับผิดชอบชีวิตคนเยอะ เพราะต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่ารถขนาดเล็ก ซึ่งหากเกิดเหตุขึ้นมา ก็จะมีอัตราโทษสูงกว่า
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/MWgfd0VpfK8