พลตำรวจตรีนครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน เปิดเผยว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชาของ สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ บัวดก มีความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ผู้กระทำผิดก็ต้องยอมรับผลของการกระทำ ซึ่งตนได้มีโอกาสพูดคุยทางโทรศัพท์กับเจ้าตัวแล้ว เจ้าตัวก็รู้สึกเสียใจ สำนึกผิดและยอมรับทุกอย่าง ถึงขั้นเอ่ยปากว่าอยากจะบวชทดแทนให้ผู้เสียชีวิต



ส่วนการดำเนินการทางคดีอาญาเรื่องการขับรถโดยประมาท และการฝ่าฝืนกฎจราจร ทาง สน.พญาไท ได้รับดำเนินคดีไว้แล้ว โดยในวันที่เกิดเหตุช่วงค่ำ สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ก็ไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวน และหลังจากนั้นได้รายงานตัวมาที่กองบังคับการฯ ซึ่งเป็นกรณีที่สงสัยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระทำความผิดทางวินัย ตนจึงได้มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) โดยมี พันตำรวจเอกกรีฑา ตันคณารัตน์ รองผู้บังคับการ กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน เป็นประธานคณะกรรมการฯ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการฯ กำหนดแนวทางในการสอบสวน และเรียกตัว สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ มาให้ปากคำ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาชัดเจน แต่คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน โดยคณะกรรมการฯ ก็จะตรวจสอบในทุกประเด็น โดยเฉพาะการเป็นข้าราชการตำรวจแต่ไม่เคร่งครัด ไปกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งเบื้องต้นเห็นชัดเจนแล้วว่ามีการกระทำผิดฐานขับรถด้วยความเร็ว / ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย / และขับรถโดยไม่ใช้ความระมัดระวังจนมีผู้ถึงแก่ชีวิต



ทั้งนี้ เนื่องจากกรณีนี้จะต้องมีผลทางคดีอาญาเข้ามาเกี่ยวเนื่องด้วย ดังนั้น หากศาลพิพากษาลงโทษจำคุก ก็จะทำให้ สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ ขาดคุณสมบัติ ต้องลงโทษทางวินัยถึงขั้นให้ออกจากราชการ แต่ก่อนที่ศาลจะตัดสินนั้น คณะกรรมการฯ ที่แต่งตั้งขึ้นมานี้ ก็สามารถดำเนินการสอบสวนและตัดสินโทษทางวินัยได้ทันทีโดยไม่ต้องรอผลของคดีอาญา แต่จะเป็นโทษขั้นใดก็ขึ้นอยู่กับผลของการสอบสวนความผิด ซึ่งยังระบุไม่ได้ โดยในตอนนี้ สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ ก็ยังสามารถปฏิบัติงานต่อไปได้จนกว่าจะมีคำสั่งของคณะกรรมการฯ ถึงที่สุด



ส่วนประเด็นเรื่องรถจักรยานยนต์ที่ สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ ใช้ขับขี่ขณะเกิดเหตุ ตนได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีเอกสารการทำสัญญาซื้อขายรถอย่างถูกต้องเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีหลักฐานทั้งเอกสารทะเบียนรถ และเอกสารของเจ้าของเดิม ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินเอกสารโอนรถ ซึ่งตนได้ตรวจสอบตัวเลขรถแล้ว พบว่าถูกต้องทุกอย่างตรงกับรถคันที่เกิดเหตุ จึงยืนยันได้ว่า ไม่ได้เป็นการนำรถของกลางมาขับตามที่ปรากฎเป็นข่าว อีกทั้ง สิบตำรวจตรีนรวิชญ์ ก็เพิ่งเข้ามารับราชการเมื่อเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา หน้าที่ปฏิบัติงานก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานีตำรวจใด และไม่มีอำนาจในการตรวจยึดรถแต่อย่างใดด้วย



พลตำรวจตรีนครินทร์ ยืนยันว่า ในการดำเนินคดีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญ และสั่งการให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ และในส่วนของกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ในฐานะต้นสังกัด ก็จะดำเนินการตรวจสอบทางวินัยผู้กระทำผิดอย่างถึงที่สุด



อย่างไรก็ตาม พลตำรวจตรีนครินทร์ ระบุด้วยว่า ตนเองจะเดินทางไปร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพของแพทย์หญิงวราลัคน์ ด้วยในช่วงเย็นวันนี้ ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน